Wiki Marketing - Organic Traffic

Organic Traffic คืออะไร?

     Organic Traffic คือ การเข้าเว็บไซต์ที่เกิดจากการคลิก โดยผลลัพธ์เกิดขึ้นจากการค้นหา ที่ไม่ใช่การซื้อโฆษณา ซึ่งเป็นยอดทราฟฟริกที่ได้รับจาก Search Engines โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ Free Organic Traffic ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ Paid Organic Traffic เกิดขึ้นโดยมีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นค่าโฆษณาอย่าง Google Ad นั่นเอง

     การทำ Organic Traffic ข้อดีคือ ตรงเป้าหมายและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลักได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อขายให้ตรงตามวัตถุประสงค์มากขึ้น เพราะยอดทราฟฟริกที่เกิดขึ้น มาจากผู้ที่สนใจหรือมีความต้องการจริงทั้งหมด  

     Organic Traffic หมายถึง จำนวนคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ที่เกิดจากการค้นหาข้อมูลบน Google แล้วเจอเว็บของคุณ หรือทำการกดคลิกเข้ามายังเว็บแบบปกติทั่วไป แต่หากมีการซื้อคำโฆษณา Ad เวลาที่มีการค้นหาก็จะทำให้เว็บขึ้นโชว์อันดับต้นๆ ในหน้าแรกของคำค้นหานั้นๆ แต่อันดับก็จะขึ้นอยู่กับคู่แข่ง โดยจำนวนที่เข้ามาจะเรียกว่า Paid Search ซึ่งเป็นแบบเสียเงิน

เหตุผลในการทำ Organic Traffic

ปรับปรุงโครงสร้าง URL

     URL มีผลต่อการทำ SEO และยอดทราฟฟริก เพราะ URL คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกจดจำและใช้ในการค้นหา หากต้องการกลับเข้ามาชมเนื้อหาภายในเว็บหรือบล็อกของคุณอีกครั้ง หากโครงสร้าง URL ล้าสมัย จดจำยาก ไม่ตรงกับเนื้อหาอาจทำให้เว็บของคุณมีโอกาสถูกพบเจอจากการค้นหาน้อยลง

     และหากต้องการแก้ไข Organic Traffic ก็จะมีเครื่องมือดีๆ อย่าง WordPress เข้ามาช่วยในการกำหนดค่า URL แบบไดนามิกผ่านทางไฟล์ htaccess แค่นี้ก็จะทำให้ปัญหาการปรับปรุงโครงสร้าง URL หมดไปง่ายขึ้น

หน้าเพจมีการเข้าชมน้อย

     เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าเพจมีคุณภาพอยู่เสมอ ควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่ไม่จำเป็นอยู่หรือไม่? หากมีก็ควรทำการตัดออกไป อาจเป็นเนื้อหาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเนื้อหาอื่นๆ บนเว็บไซต์ หรือมีเนื้อหาต่ำกว่า 500 คำ, เนื้อหาล้าสมัย ที่จะส่งผลให้เกิดการเข้าชมน้อยลง

     หากคุณมีผลงานที่ด้อยคุณภาพ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลบหน้านั้นทิ้งไป ทางแก้คือ การทำ Organic Traffic เพื่อตั้งค่าใหม่พร้อมส่งเครื่องมือค้นหาและผู้เข้าชม โดยพยายามเข้าถึงเนื้อหาเหล่านั้นไปยังหน้าที่ต้องการ หากคุณกำลังทำงานบน WordPress ก็จะมีปลั๊กอินหลายตัวที่สามารถช่วยให้สำเร็จในงานนี้ได้  

ปรับปรุงความเร็วหน้าเพจ

     หากไม่ต้องการให้หน้าเพจมีการดาวน์โหลดช้า ก็ควรหลีกเลี่ยงโฮสติ้งฟรี หรือการใช้โฮสติ้งร่วมกับผู้อื่น เพราะความเร็วของหน้าเว็บถือว่าสำคัญในการทำ SEO ปัจจุบันมีแพกเกจโฮสติ้งที่เหมาะสำหรับ WordPress ที่ส่วนใหญ่จะเป็น SSL Caching และ CDN ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะสลับไปยังเว็บโฮสต์เฉพาะเหล่านี้

      การทำ Organic Traffic สามารถเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดได้ ด้วยการลดจำนวนปลั๊กอินที่ไม่จำเป็นต่อการใช้งานออกไป เพราะปลั๊กอินแต่ละตัวต้องใช้กำลังประมวลผลแต่ละหน้าต่างกัน หากแก้ไขแล้วก็ควรกลับมาดูหน้าเพจไม่ว่าจะเป็นขนาดของรูปภาพ จำนวนโฆษณา ระยะเวลาแสดงวิดีโอ ที่ต่างใช้เวลาในการดาวน์โหลดนาน ซึ่งหากไม่จำเป็นก็ให้นำออกได้

สร้างการเชื่อมโยงภายใน

     การกำหนดโครงสร้างการวางลิงก์ด้วยตัวเอง สามารถเริ่มจากการวางลิงก์ลงบนหน้าเพจต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกันภายในเว็บไม่ว่าจะเป็นบทความ การบริการ ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เนื้อหาเชื่อมโยงกัน โดยจะทำให้ผู้เข้าชมสามารถรับข้อมูลทันทีโดยไม่ต้องออกจากเว็บเพื่อทำการค้นหาอีกครั้งให้เสียเวลา

     การเชื่อมโยงภายในเว็บ เป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจในการค้นหาข้อมูล ซึ่งการสร้างลิงก์เชื่อมโยงภายในหากทำออกมาดีผู้เข้าชมจะใช้เวลาอยู่บนเว็บนานขึ้น ส่งผลให้ Google พิจารณาเว็บไซต์ว่าเป็นเว็บที่มีคุณภาพ

ทำ Content สม่ำเสมอ

     การทำ Content ให้สม่ำเสมอจะทำให้ผู้ที่เข้ามาได้เจอกับข้อมูลที่ต้องการค้นหา ทำให้ผู้บริโภครู้ว่าแบรนด์ยังมีการอัพเดทข้อมูล มีเนื้อหาใหม่ๆ ที่สามารถค้นหาเจอทุกครั้งที่เข้ามาตามเวลาที่แบรนด์จะต้องมีเนื้อหาใหม่ๆ ออก ไม่ใช่เปิดเข้ามาแล้วเจอเว็บร้าง ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่อยากเข้ามาในเว็บอีก 

     สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาในเว็บเอง เพื่อค้นเนื้อหาที่สนใจในการเก็บข้อมูลต่างๆ สำหรับนำไปใช้ในการตัดสินใจต่อไป และหากเว็บมี Content ลงสม่ำเสมอจะทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลใหม่ๆ เมื่อเข้ามาค้นหา โดยจะมีเนื้อหาที่น่าสนใจรออยู่ที่เว็บไซต์หรือ social media  

การใช้เทรนด์ให้เหมาะสม

     การเข้าใจเทรนด์จะทำให้สามารถใช้กระแสเหล่านั้นมาสร้างโอกาสให้แบรนด์ได้มากขึ้น ซึ่งการติดตามข่าวสารต่าง ๆ จากเครื่องมือใหม่ๆ ของระบบไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Facebook จะทำให้รู้การเปลี่ยนแปลงเพื่อเรียนรู้ว่าจะรับมือได้อย่างไร โดยการเข้าใจกระแสยังสามารถขยายไปถึงเรื่องต่างๆ ในสังคมว่ากำลังมีความสนใจเรื่องอะไร เพื่อที่จะสร้าง Content  เตรียมไว้สำหรับความสนใจเหล่านั้นได้  

สรุปการมี Organic Traffic

     คือ ยอด Traffic ที่ได้รับจากการค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย โดยการมี Organic Traffic คือ ตรงเป้าหมาย และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลักได้ง่าย อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการซื้อขายมากขึ้น เพราะยอดทราฟฟริกที่เกิดขึ้น มาจากผู้ที่สนใจหรือมีความต้องการจริงทั้งหมด