Mass Market คืออะไร?
การเริ่มต้นธุรกิจหรือผู้ประกอบการต้องการคิดจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การเลือกกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะแม้ว่าสินค้าจะดีแค่ไหนแต่หากไม่มีคนซื้อก็อาจทำให้ธุรกิจประสบความล้มเหลว ซึ่งจะมีกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ Mass Market (ตลาดมวลชน) และ Niche Market (ตลาดเฉพาะกลุ่ม)
การทำการตลาดรวมหรือตลาดแบบกว้างๆ หรือ Mass Market ด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากผู้คนมากมายหรือองค์กรหลายประเภท ซึ่งมีโอกาสและสนใจที่จะเป็นลูกค้าของสินค้าหรือบริการนี้ โดยเป็นการเลือกกลุ่มเป้าหมายหรือ Targeting ด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดแบบจำนวนมากๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจงมากนัก เรียกได้ว่าการทำ Mass Market คือ การเน้นการทำการตลาดด้วยปริมาณ (Quantity) ซึ่งไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก
การทำ Mass Market ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เจ้าของธุรกิจไม่สนใจความแตกต่างของส่วนต่างของการตลาดและดึงดูดตลาดทั้งหมดด้วยข้อเสนอเดียว หรือกลยุทธ์ที่สนับสนุนแนวคิดในการกระจายเสียงข้อความที่จะเข้าถึงผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ข้อดีของการทำ Mass Market
ช่วยลดต้นทุนการผลิต : การทำ Mass Market เป็นกลยุทธ์ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก โดยผลิตสินค้าที่มีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยรวม ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีรูปแบบอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน โดยการผลิตสินค้าออกมาจำนวนมากจะทำให้มีต้นทุนผลิตต่ำ ทำให้องค์กรสร้างความได้เปรียบในด้านราคาได้
ไม่ต้องค้นหาลูกค้ามาก : การทำ Mass Market จะช่วยให้มีลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ขายสินค้าได้แน่นอน ด้วยการทำการตลาดแบบกว้างจึงไม่ต้องค้นหาลูกค้ามากเหมือนตลาดเฉพาะกลุ่ม เพราะสินค้าที่ทำ Mass Market เป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้
สินค้าขายง่ายขึ้น : ถ้าสินค้าไม่คุณภาพแย่จริงๆ ยังไงก็มีคนซื้อ เพราะการทำ Mass Market จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย เห็นสินค้าง่ายขึ้น และสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใครหลายๆ คนจำเป็นต้องใช้
สร้างการจดจำแบรนด์ : การทำ Mass Market เหมาะกับผู้ประกอบการหรือกลุ่มทุนที่มีทรัพยากรและงบประมาณเพียงพอที่จะทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ เพราะการทำ Mass Market จะมีการแข่งขันสูงในสินค้าที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ มักจะกล้าทุ่มงบประมาณแข่งขัน เพราะหากเงินไม่ถึงจริงอาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถจดจำแบรนด์ได้
ข้อผิดพลาดของการทำ Mass Market
ต้นทุนที่สูง : เพื่อให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์เร็วขึ้น ทำให้ต้นทุนส่วนใหญ่จะหมดไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพราะสินค้าที่จับกลุ่ม Mass Market ส่วนใหญ่จะคล้ายกันหมด ทางออกของการที่จะขายสินค้าได้ คือการส่งเสริมการขาย หรือการจัดโปรโมชั่นเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า
เกิดการแข่งขันด้านราคา : สินค้าที่จับกลุ่ม Mass Market ส่วนใหญ่จะแข่งขันกันด้วยราคา จนนำไปสู่การตัดราคากันไปมา ซึ่งสุดท้ายแล้วทำให้เจ็บตัวกันทุกฝ่าย ส่วนใครที่มีทุนหนากว่าหรือสายป่านยาวกว่า ก็จะยืนอยู่ได้นานจนคู่แข่งทางการตลาดลดลง
สรุปการทำ Mass Market
การทำ Mass Market ไม่เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนที่น้อยเกินไป และยิ่งหากจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ เจ้าของกิจการจำเป็นจะต้องใช้ต้นทุนมากในระดับหนึ่ง เพื่อใช้ไปกับการส่งเสริมการตลาด ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณา หรือกาจัดโปรฯ ต่างๆ อย่างการลด แลก แจก แถม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น