LINE@ คืออะไร ?
ปัจจุบันร้านค้านิยมหันมานิยมใช้ LINE@ กันมากขึ้น เพราะสามารถรองรับลูกค้าได้มากขึ้นกว่าการใช้งาน Line แบบเดิมๆ เพราะหากร้านมีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีลูกค้ามากขึ้น ทำให้การทัก Inbox เข้ามาจึงมากมายมหาศาลและ 1 account ใช้ได้แค่ 1 คน ที่สำคัญตอบคำถามไม่ทันและดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง, ไลน์ค้าง ฯลฯ
Line จึงได้คิดนวัตกรรมใหม่ด้วยแอคเคาท์แบบใหม่เพื่อเอาใจพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งธุรกิจออนไลน์ โดยแอคเคาท์สำหรับเจ้าของกิจการออนไลน์แบบใหม่ก็คือ LINE@ (ไลน์แอด)” นั่นเอง
LINE@ คืออะไร?
Line ได้เปิดบริการใหม่ที่มีชื่อว่า LINE@ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการขึ้นมา เพื่อรองรับร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แค่ทำการดาวน์โหลดแอพที่ชื่อว่า LINE@ โดยสามารถใช้ได้ทั้งกับระบบ Android และ iOS ซึ่งลักษณะการทำงานของ LINE@ เป็นช่องทางในการสื่อสารทางธุรกิจมากกว่าจะเป็นการสื่อสารส่วนตัว
LINE@ นับเป็นพัฒนาการเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และยังสามารถเทียบชั้นได้กับ fanpage ใน facebook ที่เป็นชุมชนอีกด้วย
ร้านที่เหมาะสมใช้ LINE@
การดาวน์โหลดแอพฯ LINE@ สามารถใช้งานได้หลากหลายธุรกิจ เนื่องจากเป็นแอพฯ ที่ใช้งานฟรี แต่ที่นิยมใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าที่มีการแชทซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการ รวมทั้งการรับออเดอร์ลูกค้าเป็นประจำ ซึ่ง LINE@ จะสามารถรองรับการคุย โต้ตอบและดูแลลูกค้าได้เร็วขึ้น
นอกจากแพคเก็ค free ที่ทางไลน์มีให้แล้ว ใน LINE@ ก็ยังมีแพ็คเก็จแบบใหม่ออกมา ราคาถูก ซึ่งร้านไหนอยากได้ชื่อ ID ที่เป็นชื่อร้านของตัวเอง ก็เสียเงินเพิ่มขึ้นมา ราคาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ก็จะได้ชื่อไอดีของ LINE@ โดยจะขึ้นด้วย @ แล้วตามด้วยชื่อร้านหรือชื่อที่คุณชอบ เช่น @kanomaroy
ข้อดีของ LINE@
เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลเพื่อธุรกิจ : การใช้งาน LINE@ ที่เป็นเสมือนการสร้างกรุ๊ปไลน์ เมื่อมีการส่งข้อมูลเข้ากลุ่ม ทุกคนที่เป็นสมาชิกกลุ่มจะสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมด ซึ่งเหมาะสำหรับส่งข้อมูลเพื่อธุรกิจ ทำให้ LINE@ สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ดีกว่า
ประหยัดเวลาในส่งข้อมูล: LINE@ สามารถส่งข้อความครั้งเดียวแต่ถึงทุกคนที่เป็นสมาชิกกลุ่มได้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏให้เห็นเฉพาะไลน์ส่วนตัวของแต่ละคน โดยที่แต่ละคนเองก็ไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่ได้รับทราบข้อมูลนั้นๆ
ประหยัดค่าใช้จ่าย : หากคิดอัตราการส่งข้อความ อย่างเช่น 50,000 ข้อความ (1 คนคิด 1 ข้อความ) แต่มีค่าใช้จ่ายเพียง 800 บาท เมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบอื่นๆ ที่จะต้องส่งให้ถึงคนจำนวนมากและเสียเงินจำนวนมาก ซึ่งการส่งข้อมูลด้วย LINE@ จึงถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับงบโฆษณาของธุรกิจต่างๆ แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ก็สามารถรับภาระได้
ตั้งระบบตอบกลับอัตโนมัติ : การใช้ LINE@ สามารถกำหนดคีย์เวิร์ดของคำถามเอาไว้ ซึ่งถือเป็นข้อดีเพราะในเรื่องการขาย เพราะลูกค้าเองก็ชอบแต้องการการตอบกลับในทันที ส่วนเจ้าของธุรกิจก็ไม่ต้องคอยตอบคำถามแบบเดิมๆ ซ้ำซาก
ตั้งเวลาโพสต์ : การใช้ LINE@ จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีความคล่องตัวในการสื่อสารตามเวลาที่ต้องการได้ แม้ไม่ว่างในเวลาใด แต่ข้อมูลจะเด้งขึ้นและส่งไปตามเวลาที่ต้องการเผยแพร่ได้
สรุปการใช้ LINE@
LINE@ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการขึ้นมา เพื่อรองรับร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สามารถส่งภาพพร้อมลิ้งค์ ได้ โดย LINE@ สามารถตั้งข้อความต้อนรับลูกค้าใหม่ที่ทักเข้ามาได้ทันที และยังตั้ง Auto-reply ได้ สามารถเลือกส่งข้อความแบบ 1 ต่อ 1 เหมือนไลน์ปกติ หรือจะส่งคูปองไปให้ลูกค้าในโอกาสพิเศษรวมทั้งมอบส่วนลด และกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้