Java คืออะไร?
Java เป็นอีกหนึ่งของภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้สำหรับสร้างแอพลิเคชัน โดยสามารถทำงานได้ดีบนอุปกรณ์ดิจิทัล โดยถือเป็นโปรแกรมภาษาที่ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการรองรับการออกแบบซอฟท์แวร์ที่มีการเชื่อมโยงกับระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งยังเป็นโปรแกรมที่สนับสนุนแนวความคิดของการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือที่เรียกว่า OOP (Object-Oriented Programming)
Java ยังมีความสามารถเฉพาะตัว ที่มีความแตกต่างจากโปรแกรมภาษาชั้นสูงอื่นๆ อย่างภาษา C หรือ C++ ในเรื่องของการทำงานข้ามระบบปฏิบัติการ หรือแพลตฟอร์ม (Platform) โดยไม่ต้องมีการรวบรวมขึ้นมาใหม่
Java (Java programming language) คือภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษา C++ ซึ่งรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นมามีความคล้ายกับภาษา Objective-C ซึ่งเดิมทีภาษานี้เรียกว่า ภาษา Oak ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Java โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming เพื่อนำมาพัฒนาโปรแกรมของตนด้วย Java ได้
โปรแกรมที่ถูกพัฒนาด้วยภาษา Java
- Java Application : โปรแกรม Java ทั่วไป ที่ทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง
- Java Card : เป็นแอพลิเคชันขนาดเล็กที่ทำงานบนสมาร์ทการ์ดหรือหน่วยความจำขนาดเล็ก
- Java Me (Micro Edition) : มีหลายรูปแบบโดยใช้สำหรับอุปกรณ์โมบายอย่าง PDA, TV set-top boxes และ printer
- Java SE (Standard Edition) : นิยมใช้แพร่หลาย เพราะเหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์,เซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
- Java EE (Enterprise Edition) : คือ Java SE ที่เพิ่ม APIs ต่างๆเข้าไปทำให้เหมาะสมกับการใช้งานโปรเจกต์ใหญ่ๆ อย่าง multi-tier client–server enterprise applications
ข้อดีของการใช้ภาษา Java
รองรับทุกการใช้งาน
โปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยใช้ภาษา Java มีความสามารถทำงานได้ในระบบปฏิบัติการที่ต่างกัน แต่ไม่จำเป็นต้องดัดแปลงแก้ไขโปรแกรม อย่างเช่นหากเขียนโปรแกรมบนเครื่อง Sun โปรแกรมนั้นก็สามารถถูกรวบรวมและรันบนเครื่องพีซีธรรมดาได้เช่นกัน
เข้าใจง่ายขึ้น
Java เป็นภาษาที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบสมบูรณ์ โดยจะเหมาะสำหรับพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อน เมื่อมีการพัฒนาโปรแกรมแบบวัตถุจะช่วยให้สามารถใช้คำหรือชื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบงาน มาใช้ในการออกแบบโปรแกรมได้ ซึ่งจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ช่วยลดข้อผิดพลาด
ภาษาจาวาจะมีการตรวจสอบข้อผิดพลาดในช่วงรวบรวม Compile time และ Runtime ทำให้มีการช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรม และยังช่วยให้แก้ปัญหาโปรแกรมได้ง่ายขึ้น
ความซับซ้อนน้อย
เมื่อเปรียบเทียบ code ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยภาษา Java กับ C++ จะเห็นว่าภาษา Java มีความซับซ้อนน้อยกว่าภาษา C++ โดยภาษา Java จะมีจำ นวนโค้ดที่น้อยกว่าโปรแกรมที่เขียนโดยภาษา C++ จึงสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าและยังช่วยลดความผิดพลาดได้มากขึ้น
มีความปลอดภัยสูง
ภาษา Java ถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสูงตั้งแต่แรก จึงทำให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วย Java มีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาอื่น เพราะ Java มีความปลอดภัยทั้ง low level และ high level ไม่ว่าจะเป็นelectronic signature, access control ,public andprivate key management และ certificates
ช่วยลดค่าใช้จ่าย
Java มี IDE, application server, และ library ต่าง ๆ มากมายที่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการซื้อเครื่องมือและ s/w ต่างๆ ได้มาก
สรุป
Java เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ชั้นสูงที่มีการทำงานเป็นลักษณะเชิงวัตถุ โดยถูกออกแบบให้มีการเชื่อมโยงภายในซับซ้อนน้อยที่สุด เพื่อให้ application ที่เขียนไว้แล้ว compile เพียงครั้งเดียว แต่สามารถรองรับทุกแพลตฟอร์มที่ support Java โดยไม่มีความจำเป็นต้อง recompile ใหม่ เพราะข้อมูลที่รวบรวมแล้วจะถูกเก็บในรูปของ bytecode ที่ใช้รันบน Java virtual machine (JVM)