Wiki Marketing - Google Algorithm
Google Algorithm คืออะไร?
ในยุคดิจิทัลนี้มีผู้คนมากมายค้นหาข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ด้วยการเสิร์ชเอ็นจิ้น (Search Engines) จาก google ซึ่งส่งผลให้ Google Algorithm เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดอันดับ ที่จะแสดงผลการค้นหาจากเว็บต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานมีความต้องการมากที่สุด รวมทั้งด้วยผลลัพธ์การค้นหาที่เร็วที่สุดด้วย
Google Algorithm คือระบบโปรแกรมที่เป็นตัวกำหนดว่าจะให้เว็บปรากฏบนหน้าผลการค้นหาของ Google ทุกครั้งที่มีการค้นหาจำนวนมาก โดย Google Algorithm จะมีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ รวมถึงยกระดับความแม่นยำให้สูงขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน Google โดยอาจมีผลกระทบต่อการจัดอันดับเว็บทั่วโลก
หลักการทำงานของ Google Algorithm คือ เมื่อทำการกดพิมพ์เรื่องที่ต้องการค้นหาลงไป Algorithm จะทำการค้นหาข้อมูลที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องการมาจัดอันดับเรียงหน้าให้เลือกใช้ข้อมูล ซึ่งส่งผลทำให้สามารถค้นเจออะไรได้ง่ายขึ้นบน Google
Algorithm ที่สำคัญของ Google ในการจัดอันดับ
Panda : Google Panda เป็น Algorithm ที่ใช้ในการตรวจสอบและจัดอันดับเว็บโดยให้ความสำคัญกับเนื้อหา ใช้ในการกำหนดคะแนนคุณภาพเนื้อหาให้กับหน้าเว็บ โดยจะเป็นตัวลดอันดับเว็บที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำ-ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เนื้อหาที่ซ้ำกับเว็บอื่น ไม่ควรคัดลอกมาจากเว็บอื่น ไม่ควรเขียนเนื้อหาน้อยเกินไปในเว็บ,เนื้อหาสแปม รวมทั้งการแทรกคำหลักที่มากเกินไปในเนื้อหา
Penguin : Google Penguin Algorithm มีเป้าหมายเพื่อใช้ตรวจสอบการเชื่อมโยงของ Back link จากเว็บไซต์ภายนอกที่ไม่เป็นธรรมชาติ ที่ถือว่าเป็นการสแปม โดยเพนกวินเป็นหนึ่งใน Google Algorithm ที่ใช้ในการพิจารณาการจัดอันดับหลักของ กูเกิลโดยทำงานในแบบเรียลไทม์
ควรหลีกเลี่ยงลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ, ลิงก์ที่มาจากเว็บที่สร้างขึ้นเพื่อการทำส่งเสริม SEO โดยเฉพาะ เช่น PBN, ลิงก์ที่มาจากเว็บที่ไม่เกี่ยวข้องกัน (หรือเนื้อหาไม่เกี่ยวข้อง) ลิงก์ที่มีจงใจใช้คำหลักใน Anchor Text มากเกินไปและลิงก์ที่เสียค่าใช้จ่าย
Pirate : Google Pirate Algorithm ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและจัดอันดับเว็บ และป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ของเนื้อหาบนเว็บอย่างภาพยนตร์ เพลงหรือหนังสือ ควรหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง และเนื้อหาที่มีการรายงานการละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก
Hummingbird : Hummingbird Algorithm คือโปรแกรมค้นหาและจัดอันดับด้วยเสียง ที่สามารถรวบรวมสถิติการค้นหาใหม่ในรูปแบบเสียง โดยกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากกลุ่มอุปกรณ์ Tablet และ Smartphone โดยการนำข้อมูลเสียงเหล่านี้แปลออกมาเป็นคำศัพท์และเก็บลงเป็นสถิติ สำหรับการค้นหาเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์สิ่งที่กำลังนิยมค้นหาอยู่ในปัจจุบัน
Hummingbird Algorithm สามารถค้นหาข้อมูลด้วยเสียงและสามารถจัดทำ Index ด้วยเสียงเช่นกัน ซึ่งการที่เจ้าของเว็บจะมีข้อมูล Contents ที่เป็นข้อมูลแบบเสียงเพิ่มเข้ามาในเว็บ ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการค้นหา SEO เข้าไปได้
Pigeon : Google Pigeon Algorithm เป็นแสดงผลการค้นหาโดยคำนึงถึงเว็บไซต์ในท้องถิ่นที่มีคุณภาพและมีความเกี่ยวข้องสูง โดย ยึดตำแหน่งที่อยู่ของผู้ค้นหาเป็นหลัก แต่ควรหลีกเลี่ยงหน้าเว็บที่ไม่เหมาะสม และการตั้งค่าหน้า Google My Business ที่ไม่ถูกต้อง หรือใส่ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ของธุรกิจที่ไม่สอดคล้องกัน ฯลฯ
Mobile Friendly Update : Google Mobile Friendly Update ใช้ตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่าง สมาร์ทโฟน หรือแท็ปเล็ต ยิ่งเว็บมีรูปแบบที่เหมาะสมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่มากเท่าไหร่ อันดับของเว็บคุณก็จะถูกจัดให้อยู่ด้านบนสุดของการค้นหาบนมือถือ แต่อันดับอาจต่ำลงเรื่อยๆ หากไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กอิน ที่ทำให้เว็บไซต์ตอบสนองได้ช้าลง, การกำหนดค่าวิวพอร์ตไม่เหมาะสม หรือเนื้อหาไม่ถูกต้อง
RankBrain : RankBrain เป็นระบบ Machine Learning ที่จะช่วยให้ Google สามารถถอดรหัสความหมายที่อยู่เบื้องหลังการค้นหาข้อมูลและแสดงผลการค้นหาเพื่อให้ตรงกับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองต่อข้อความค้นหาให้แก่ผู้ใช้งาน แต่ควรหลีกเลี่ยงการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้งานเว็บไซต์
สรุปการมี Google Algorithm
การอัพเดทของ Google Algorithm แสดงให้เห็นว่ากูเกิลให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณภาพ ความเกี่ยวข้องของเนื้อหากับคำค้นหา รวมทั้งความพึงพอใจของผู้ค้นหามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากต้องการให้เว็บติดอันดับที่ดีๆ ใน Google ควรเข้าใจหลักการทำงานของ Google Algorithm และการอัพเดทแต่ละครั้งว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพื่อวางแผนการทำ SEO หรือ Search Engine Marketing ให้สอดคล้องกับ Google เพื่อติดอันดับง่ายขึ้น
