Campaign คืออะไร ?
การทำ Campaign เป็นสิ่งจำเป็นที่แทบจะทุกธุรกิจต้องลงมือทำ ซึ่งถือเป็นชุดข้อความโฆษณาผลิตภัณฑ์ โดยสามารถทำงานผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหา จาก Google Bing และโซเชียลมีเดีย รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ และยังเป็นวิธีสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ธุรกิจไปถึงเป้าหมายตามที่ตั้งเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะเพื่อสร้าง Awareness หรือสร้าง Engagement ในการสร้างยอดขายหรือสร้างเป้าหมายทางธุรกิจอื่น ๆ
Campaign คือ งานโฆษณาที่เป็นชุดเอาไว้สำหรับทำการตลาดผลิตภัณฑ์/ บริการแคมเปญต่าง ๆ โดยจะต้องสามารถทำงานผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาอย่าง Email Google หรือ Bing และสื่อโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ซึ่งการบริหารจัดการ Campaign ที่ดีจะทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนกลับมาอย่างคุ้มค่า จากการจัดการได้อย่างเหมาะสมให้กับกลุ่มลูกค้า
4 องค์ประกอบสำคัญ ก่อนลงมือทำ Campaign
1. Campaign Goal เป้าหมายแคมเปญที่ชัดเจน
2. Content needed รูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะสม
3. Traffic Source แหล่งผู้คนที่ต้องการเข้าถึง
4. Call to action สัญลักษณ์สร้างแรงกระตุ้น
Call to action คือ ถ้อยคำ สัญลักษณ์ หรืออะไรก็ตาม ที่คุณใช้กระตุ้นให้ผู้รับชมทำ ตัวอย่างเช่น ถ้าการตลาดของคุณอยู่ในขั้นตอน Subscribe ให้ได้ข้อมูลลูกค้า Call to action อาจจะทำขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ดาวน์โหลดเอกสาร เช็คลิสต์ หรือวิดีโอ ถ้าการตลาดของคุณอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจซื้อ ( Convert ) หรือขั้นตอนการซื้อซ้ำซื้อเพิ่ม ( Ascend ) Call to action ของคุณอาจจะอยู่ในรูปของสัญลักษณ์กระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า และบริการ แต่ถ้าแคมเปญของคุณมีจุดประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ ( Awareness ) Call to action อาจจะเป็นการกระตุ้นให้คนฟังพอดแคสต์ หรืออ่านบล็อค เป็นต้น
ปัจจัยการทำ Campaign ประสบความสำเร็จ
1. นำเสนอให้ถูกเวลา
การนำเสนอ Campaign ที่เป็นประโยชน์ ควรทำให้ตรงเป้าหมาย และถูกเวลา เพราะหากช่วงเวลาที่นำเสนอไม่ใช่ช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายต้องการมากที่สุด อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกอยากเข้าหาชุดโฆษณา หรือสินค้าของคุณยากขึ้น
2. มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
การทำ Campaign การตลาดให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว คือ การระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่าแต่ละ Campaign การตลาดนี้กลุ่มเป้าหมายคือใคร? และจะทำอย่างไรให้ที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
3. สอดคล้องภาพลักษณ์แบรนด์
เพื่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น การทำ Campaign การตลาดจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพลักษณ์และทิศทางของบริษัทหรือองค์กรอยู่เสมอ
4. การจัดวางภาพแบบเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางรูปแบบ,ตัวอักษร, สีสัน รวมทั้งภาพประกอบการทำ Campaign จะต้องมีลักษณะที่ดูแล้วรู้ว่าเป็นงานชุดเดียวกัน หรือมาจากแหล่งเดียวกัน
5. การใช้คำพูดหรือสำนวนเดียวกัน
คำพูดที่ใช้ในการทำ Campaign แต่ละชิ้น จะต้องมีบุคลิกส่งเสริมตัวงานชุดนั้น ๆ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสโลแกนหรือสำนวนต่าง ๆ ก็ตาม
6. การใช้เสียงเดียวกัน
การใช้เพลงประกอบหรือเสียงของผู้ประกาศ และแม้แต่เสียงที่ใช้เทคนิคพิเศษจากการทำ Campaign จะต้องสามารถสื่อให้ผู้บริโภค มีการทราบได้ว่าโฆษณาที่ได้ยินนั้น ๆ เป็นชุดเดียวกัน และมาจากสินค้าหรือบริการเดียวกัน
7. การใช้ทัศนคติเดียวกัน
งาน Campaign ในแต่ละชุดจะต้องสามารถบ่งบอกหรือตอบสนองจุดประสงค์หลัก รวมทั้งคอนเซ็ปต์หลักของสินค้าในแนวทางเดียวกันให้ได้
ข้อดีของการทำ Campaign
1. ติดตั้ง และเปิดใช้งานได้ง่าย และรวดเร็วเพียงไม่กี่คลิก
2. ไม่ได้จำเป็นต้องควบคุมดูแล และบำรุงรักษา Campaign เมื่อเทียบกับแบบ Standard
3. Conversion Rate มักจะสูงเสมอ
4. โฆษณานี้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้กว้างขวางกว่า เพราะสามารถแสดงผลได้บนหลากหลายเครือข่ายเลย
ข้อเสียของการทำ Campaign
1. เรามีสิทธิ์ในการควบคุมแคมเปญได้น้อยมาก เช่น กำหนดกลุ่มเป้าหมายเองไม่ได้, เลือกพื้นที่แสดงผลเองไม่ได้ เป็นต้น
2. ไม่สามารถกีดกันกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ต้องการออกได้
3. ไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาในการออนไลน์โฆษณาได้
4. ไม่สามารถปรับแต่ง กลยุทธ์การเสนอราคาค่าคลิกได้
สรุปการใช้ Campaign
Campaign ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องสามารถใช้ข้อมูลด้านการขาย และการตลาดมาใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งจะต้องรู้และเข้าใจองค์ประกอบสำคัญ และวิธีการนำไปใช้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของลูกค้า หรือการวิเคราะห์ด้านแคมเปญที่เคยจัดขึ้น โดยการจัดการแคมเปญเพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด จะต้องทำให้ตรงความต้องการลูกค้ามากที่สุด