Share : wiki wiki wiki wiki

Wiki Marketing - Business Manager



Business Manager คืออะไร?

 

     การใช้เครื่องมือ Business Manager กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ Facebook ที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์อย่างมาก เพื่อเป็นการเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับแบรนด์และนักการตลาด ให้เข้ามาจัดการทำแคมเปญต่างๆ เองภายในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเพจ การทำบัญชีโฆษณาหรือวิธีการจ่ายเงินของหลายๆ บัญชี หลายๆ แบรนด์ภายใต้หน้าจอเดียว ทำให้ประหยัดเวลาในการติดตั้งและการจัดการบัญชีโฆษณาและเพจ

 

 

     Business Manager คือ ประตูด่านแรกๆ สำหรับการเข้าถึงการยิงโฆษณาที่ได้ผลลัพธ์ดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดการบัญชีโฆษณาได้สะดวกขึ้น คุณสามารถดึงเพจเข้ามาใน Business Manager ได้ไม่ว่าจะเป็น Local Business, Brand & Product, Entertainment หรือ Community โดยมีข้อแม้คือ จะต้องเป็นเพจที่ไม่ใช่โปรไฟล์ส่วนตัวของคุณ แค่นี้ก็จะสามารถใช้ Business Manager ได้ทั้งหมด

 

 

     คนรับทำ Facebook Marketing ควรเลือกใช้เครื่องมือ Business Manager เพราะจะต้องจัดการหลายๆ เพจรวมถึงบัญชีโฆษณาของแต่ละเพจ โดยอาจจะต้องมีเรื่องการเงินเข้ามาเกี่ยว โดยคุณยังสามารถจัดการกับบัญชี Instagram ที่ถูกดึงเข้ามาเป็น Business ที่มีการเชื่อมต่อกับเพจเช่นกัน Business Manager จะทำให้ง่ายต่อการจัดการซื้อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

ข้อดีของ Business Manager

 

1. เข้าถึงเครื่องมือขั้นสูง

     สำหรับการใช้งาน Business Manager เอาไว้ดูข้อมูลเชิงลึกของคนใน Facebook หรือ Campaign Planner การใช้ส่วนที่เป็น Business Manager จะทำให้เห็นแถบสีเทาที่มีเครื่องมือต่างๆ อย่าง Audience Insight ซึ่งจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

 

2. เครื่องมือช่วยวางแผน

     Business Manager เป็นเครื่องมือที่จะช่วยวางแผนโฆษณาก่อนสร้างจริง โดย Facebook Analytics จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลตัวใหม่ที่ละเอียด

 

3. ดูแลจัดการเพจและบัญชีโฆษณา

     หากคุณต้องการผูกบัตรเครดิตที่แตกต่างกัน หรือ จัดวางแอดมินที่แยกกัน การมี Business Manager จะสามารถทำได้อย่างชัดเจน เพราะจะช่วยดูแลจัดการเพจและบัญชีโฆษณา (Ad Account) ได้หลายบัญชี ซึ่งเอเจนซี่หรือบริษัทที่มีทีมการตลาดนิยมใช้กันมาก

 

4. สร้างกลุ่มเป้าหมายเชิงลึก

     การสร้าง Custom Audeince และ Lookalike Audience แม้จะนำข้อมูลที่มีอยู่มาใส่ในระบบ Facebook สำหรับการค้นหาต่อ แต่ก็อาจทำอะไรไม่ได้หากไม่ได้ใช้งาน Business Manager

 

5. แชร์การเข้าถึงได้สะดวก

     หากคุณมีทีมงานมากมายหรือมีหลายเพจที่จะต้องดูแล การมี Business Manager จะทำให้สามารถบริหารจัดการเข้าถึงในส่วนต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทำให้ทราบว่าว่าใครมีหน้าที่ทำอะไร และยังสามารถแชร์กลุ่มข้อมูลต่างๆ ให้กันได้ด้วย

 

 

สรุปการมี Business Manager

 

     เมื่อคุณมี Business Manager ก็จะมีฟังก์ชั่นสำคัญที่จะช่วยจัดการธุรกิจของคุณในส่วนของ Facebook และ Instagram ให้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะสร้าง Flow ในการทำงานได้ดี การใช้งานได้ง่ายและเป็นระเบียบยิ่งขึ้น สามารถกำหนดให้ผู้คนหรือหุ้นส่วนธุรกิจเข้าถึง Assets ต่างๆ ตามลำดับหน้าที่ของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน   

Created BY : SEOlnwza

phone line chat_facebook