กลยุทธ์ผิด ๆ ในการทำSEO คุณควรหลีกเลี่ยง เพราะกระบวนการทำ SEO หรือ Search engine optimization นั้นถ้าทำไม่ถูกต้องอาจจะทำให้อันดับของเว็บไซต์คุณลดลงมาได้ เราลองมาดูกันว่ากลยุทธ์ผิด ๆ ในการทำSEO นั้นมีอะไรบ้าง
1.ลิงค์จากรวมเว็บสารบัญ ( Web Directory )
ไดเรกทอรีลิงก์ในปัจจุบันไม่ได้มีประโยชน์แล้ว นอกจากเว็บไดเรกทอรีที่มีคุณภาพสูงเฉพาะเจาะจงและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการที่เข้มงวด ก่อนที่ Search engine จะฉลาดแบบทุกวันนี้ เมื่อก่อนจะมีเว็บไดเรกทอรีเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้หาสิ่งที่ต้องการได้ เว็บไซต์ไดเรกทอรีสมัยนั้นจึงเป็นที่นิยมมาก จนในปัจจุบันผู้ใช้ไม่ได้นิยมใช้เว็บไซต์ไดเรกทอรีและเริ่มหันไปใช้ Search engine จึงทำให้เว็บไซต์ไดเรกทอรีเริ่มห่างหายกลายเป็นแหล่งรวมลิงค์ที่คุณภาพต่ำ ซึ่งถ้าคุณไปฝากลิงค์ไว้ในเว็บไซต์ไดเรกทอรีจะทำให้คุณถูกลงโทษได้
2.Google เลิกสนใจชื่อ Domain name
ในอดีตการเลือกชื่อเว็บไซต์ (Domain Name) ได้ตรงกับ Keyword ที่ต้องการแล้วเว็บไซต์นั้นจะได้อันดับที่ดีใน Google แต่ในปัจจุบัน Google ได้ลดความสำคัญของชื่อโดเมนในการทำSEOและให้ความสำคัญกับคุณภาพของเว็บไซต์และเนื้อหาของเว็บไซต์แทน ซึ่งตอนนี้หากใครที่ชื่อเว็บไซต์ตรงที่มีชื่อโดเมนตรงกับ Keyword ที่ต้องการและอยู่ในอันดับดีอยู่ ก็หันมาเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพและเนื้อหาที่ดีเพื่อยึดอันดับที่ดีเอาไว้
3.การแลกลิงก์
Google ได้ลดความสำคัญของปัจจัยในการจัดอันดับจากจำนวนลิงค์ให้น้อยลง แต่ยังคงให้ความสำคัญอยู่โดยเน้นไปที่คุณภาพของลิงค์หลักแทนและยังเพิ่มบทลงโทษกับการสร้างลิงค์ (Backlink) ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งมีผลโดยตรงกับการจัดอันดับ ดังนั้นการทำลิงค์เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เช่น ถ้าคุณใส่ลิงค์ให้ฉัน ฉันจะใส่ลิงค์คืนให้คุณ ซึ่งมันเป็นวิธีในอดีตที่ปัจจุบันไม่นิยมทำกันแล้ว ถึงแม้อีกเว็บไซต์นึงจะไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันและไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้
4.การทำ URL แบบเนื้อหาระดับเดียวกันหมด
การทำ URL ควรทำให้ Search Engine เข้าใจง่าย ต้องมีความชัดเจนและสื่อสารความสำคัญของแต่ละหน้าในเว็บไซต์ของคุณได้ดี เช่น http://seolnwza/blog/read/52 ถ้าแยกเป็นสัดส่วนก็จะทำให้ Search Engine เข้าใจลำดับของเว็บไซต์คุณได้ไม่ยากและอีกสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องคิดให้ดีก่อนเขียนคอนเทนต์หรือบทความต่อไปข้างหน้าเพราะการเปลี่ยน URL ในภายหลังนั้นจะเปลี่ยนเส้นทางหน้าเว็บไซต์ของคุณทั้งหมดและอาจทำให้คุณสูญเสียในการจัดอันดับบน Search Engine จากที่เคยติดอันดับสูงอยู่แล้ว
5.การใช้ Blog สำหรับสร้าง Link เกินความจำเป็น
การเขียน Blog นั้นเป็นการ PR แบบพื้นฐานแต่คุณต้องยกระดับให้ Blog ของคุณอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้มีผู้ชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นโดยการเผยแพร่บทความของคุณไปยัง Blog ที่ฟรีเพื่อแสดงให้ผู้อ่านนั้นได้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและน่าชื่อถือของคุณและเป็นการสร้างแบรนด์ในตัวบุคคลรวมไปถึงการสร้าง Backlinks ในช่วงแรก ๆ คุณอาจจะทำบทความไปยัง Blog ต่าง ๆ เพื่อ Google จะเข้ามาตรวจจับบทความของคุณ โดยการเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ แต่เนื่องจากลิงค์เป็นสิ่งสำคัญในการทำSEO คุณก็เริ่มจะทำลิงค์กลับไปหาตัวเองมากขึ้น ๆ และถ้าคุณไปโพสตามเว็บลงประกาศโฆษณา รวมถึงตามเว็บบอร์ดโดยไม่เลือกที่เพื่อหวังให้ได้ Backlink เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะไม่มีผลต่อการทำSEO อีกทั้งยังส่งผลร้ายมากกว่าผลดี หากถูก Google มองว่าเป็นการสแปม ซึ่งในระยะหลังหาก Google เริ่มจับได้ว่าเป็นการสแปมลิงค์ เว็บไซต์ของคุณก็อาจจะถูกลดอันดับรวมไปถึงขั้นแบนเว็บไซต์ ซึ่งต้องไปเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ในโดเมนใหม่
6.การใช้ Keyword ซ้ำซาก
สำหรับใครที่ใช้วิธีการโดยให้เนื้อหาของตัวเองนั้นมี Keyword ที่ซ้ำ ๆ ถี่ ๆ เพื่อที่จะทำให้ติดอันดับSEO ได้ง่ายมากขึ้น แต่การที่ใส่คำซ้ำ ๆ นั้นไม่ได้มีผลดีต่อการทำSEO ในระยะยาวเพราะผู้เยี่ยมชมนั้นจะมองว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ การวาง Keyword เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำSEO การใช้ Keyword แบบข้างต้นเป็นการทำSEO ที่ไม่ดี ซึ่งในการทำSEO ในลักษณะนี้เรียกว่า Keyword Stuffing ซึ่งวิธีการทำแบบนี้จะทำให้ Google จับตาดูเป็นพิเศษ
7.ข้อความไม่ตรงกับ Anchor text
Auchor text เป็นเทคนิคในการทำSEO เพราะเป็นส่วนสำคัญในขั้นตอนของการสร้าง text link หรือ การใส่คีย์เวิร์ดลงไปในลิงค์ ถ้าคุณทำSEO แล้วใช้ Anchor text แบบผิด ๆ อันดับอาจจะหายไปจาก Google แต่ถ้าใช้ถูกทางก็จะทำให้อันดับของคุณดีขึ้น สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำ Auchor text คือ Keyword ที่ใช้ Auchor text เดิมซ้ำกันหลายครั้ง เพราะว่า Google อาจจะมองได้ว่าเป็นการสแปม ควรใช้ Auchor text ที่ผสม Keyword อื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกัน อย่าสร้าง Backlink ที่มี Auchor text เหมือนเดิมซ้ำ ๆ และการสร้าง link ที่ดีควรเป็นเนื้อหาให้มีความเกี่ยวข้องกับความแนบเนียนกับ Auchor text เว็บไซต์ที่จะลิงค์ไปให้มากที่สุด เพื่อเนื้อหาที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับ Auchor text และเว็บไซต์เป้าหมายที่ลิงค์ออกไปนั้นจะทำให้เสียคะแนนความน่าเชื่อถือไป จึงควรเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันให้ดี
8.สร้างจำนวนของหน้ามากเกินไปเพื่อหวังSEO
การสร้างหน้าเว็บไซต์ให้กับคีย์เวิร์ดที่เราต้องการหลาย ๆ คำ เนื้อหาขึ้นจำนวนเยอะ หรือ doorway page เพื่อหลอก Search Engine Bot โดยไม่ได้คำนึงถึงคนอ่านนั้นไม่ควรทำเพราะ Google จะทำการคัดกรอง คัดแยก จัดกลุ่ม คำค้นหา ที่แปลกใหม่เหล่านี้ได้แบบอัตโนมัติ โดยใช้ “RankBrain” RankBrain คือ เทคโนโลยีภูมิปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกพัฒนาโดย Google และถูกนำมาใช้ในการช่วยจัดอันดับผลการค้นหา นอกจากนี้ยังช่วย Google จัดอันดับหน้าเว็บสำหรับ Keyword ที่ไม่ได้อยู่ในเนื้อหาได้เมื่อปรากฏคำค้นหาที่ไม่คุ้นเคยโดยมุ่งเน้นในเรื่องของคำค้นหาที่ Google ไม่เคยพบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก atimedesign