เขียนบทความให้ติดอันดับ Google ด้วยเทคนิค SEO
คอนเทนต์ หรืองานเขียน ถือเป็นแกนหลัก ของการทำ SEO เว็บไซต์ ให้ติดอันดับของ Google เพราะคอนเทนต์คือสิ่งที่ผู้ Search มองหา และงานเขียน คือคำตอบ เราจะเขียนบทความอย่างไร ให้ถูกหลัก SEO เพื่อให้บทความติดอันดับต้น ๆ ของ Google
บทความนี้ จะอธิบายวิธีการเขียนบทความ ให้ติดอันดับ Google ด้วยเทคนิค SEO เมื่อคุณอ่านจบ และลองทำตาม จะช่วยให้บทความของติดอันดับอยู่หน้าแรก ๆ ได้แน่นอน
สำหรับการ เขียนบทความ Keyword ที่เราเลือก ไม่จำเป็นต้องใช้คำเดียว กับหน้าเว็บไซต์หลักเสมอไป แต่ควรเลือก Keyword ที่เหมาะสมกับบทความ ที่เราจะเขียน เน้นไปที่การสร้างคุณภาพให้กับบทความ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอันดับการค้นหาในหลาย ๆ Keyword เพราะปัจจุบันอัลกอลิทึมของ Google นั้น ฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเรียนรู้ได้ว่า บทความที่เราเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ หากเว็บไซต์ของคุณ เป็นธุรกิจค้าขาย หรือร้านค้าออนไลน์ อย่างเช่น เสื้อผ้าแฟชั่น คุณก็อาจเขียนบทความที่เกี่ยวกับ วิธีการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมสไตล์การแต่งตัว แต่ไม่ใช่ว่า Keyword ที่เราคิดขึ้นมาเอง จะใช้ได้เสมอไป Keyword ที่เลือกมาเขียนบทความนั้น ต้องมีปริมาณการค้นหาด้วย ( Search Volume )
สำหรับวิธีการดูปริมาณ Keyword สามารถทำได้หลายวิธี ขอแนะนำวิธีที่เคยใช้ เพราะใช้ง่าย และที่สำคัญคือ เครื่องมือตัวนี้ใช้ฟรีด้วย
สำหรับการตั้งหัวข้อบทความ หลายคนมักจะมีไอเดียตั้งต้นมาก่อนแล้วว่า อยากจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร สิ่งที่เราต้องเพิ่มเข้าไปก็คือ Keyword ที่เราได้มานั่นเอง พร้อมกับเพิ่มเทคนิค ที่ทำให้หัวข้อบทความ ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น การขึ้นหัวข้อด้วยปัญหา คำถาม ตัวเลข หรือ Call to action
การวางโครงสร้างบทความ จะช่วยให้เราจับประเด็นที่จะเขียน และเรียงลำดับความสำคัญของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น บทความนี้พูดถึง เรื่องอะไรบ้าง เนื้อหาไหนขึ้นก่อน โดยตั้งชื่อหัวข้อหลัก และหัวข้อรองให้ชัดเจน การวางโครงสร้างบทความให้ชัดเจน ยังช่วยให้ผู้ที่เข้ามาอ่านบทความ สามารถอ่านได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย หลังจากที่เราเขียนคอนเทนต์เสร็จแล้ว ทำให้เราใส่ Heading Tag ให้กับหัวข้อหลัก และหัวข้อรองที่เรากำหนดเอาไว้ได้ง่ายอีกด้วย
เมื่อเราวางโครงสร้างบทความแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลงมือเขียน การเขียนบทความในช่วงแรก ให้เขียนไปตามอารมณ์ของเราก่อน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเขียนผิด จะใช้ภาษาแบบไหนก็ได้ เพื่อให้บทความที่เขียนมีความไหลลื่น และเป็นธรรมชาติ ตามลำดับโครงสร้างบทความที่เราวางเอาไว้
ผลสำรวจจาก skyword พบว่า บทความที่มีรูปภาพ จะมีคนดูมากกว่าบทความที่ไม่มีรูป การใส่ภาพประกอบเป็นอีกส่วนที่ช่วยในเรื่องของการทำ SEO นอกจากนี้ เรายังสามารถแทรก Keyword เข้าไปในรูปภาพได้อีกด้วย โดยการใส่คำอธิบายให้กับรูปภาพ หรือที่เรียกว่า Alt Text
เพิ่มความน่าสนใจให้บทความด้วย Internal Link และ External Link
เมื่อเราเขียนบทความเสร็จแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือการ ตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งเนื้อหา ตัวสะกด ว่าถูกต้อง และครบถ้วนหรือไม่ นอกจากนี้ การอ่านบทความที่เขียนซ้ำ ๆ จะช่วยให้เรามองเห็นมุมใหม่ ๆ ว่ามีอะไรบ้างที่เราควรจะเพิ่มเข้าไปในเนื้อหา หรือปรับคำให้ดีขึ้น
นอกจากการทำ SEO ในบทความแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำหลังจากนี้ก็คือ การตั้งค่า Meta Tag คือข้อความรหัส HTML หรือคำอธิบาย สำหรับหน้าเว็บไซต์หน้านั้น ๆ โดยการตั้งค่า Meta Tag ข้อความจะไม่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ แต่จะไปแสดงบน Google Search โดยสิ่งที่เราจะเห็นได้ชัด คือส่วนของ Title และ Description
เป็นการตั้งค่า SEO อีกอย่างหนึ่ง ที่อยู่นอกเหนือบทความ เป็นส่วนที่สามารถใส่ Keyword เข้าไปได้เช่นกัน หากคุณเขียนบทความภาษาไทย ใช้ Keyword ภาษาไทย การใช้ URL เป็นภาษาไทย เมื่อคุณ Copy URL ไปโพสต์ต่อในช่องทางต่าง ๆ จะมีลักษณะยาวมาก ๆ
หากใครที่ลองเขียนบทความแล้วรู้สึกว่าคิดไม่ออก หรือเขียนเสร็จแล้ว ได้แค่บทความสั้น ๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อคุณศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น มีการฝึกฝน และเขียนบ่อย ๆ คุณก็สามารถเขียนบทความ ที่มีความลึก มีคุณภาพได้ เรื่องการทำ SEO จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป สร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Google เพิ่มผู้ชมบนเว็บไซต์ ด้วยบริการ SEO ของเราให้ธุรกิจคุณเหนือกว่าคู่แข่ง
อ่านบทความเพิ่มเติม
Severity: Core Warning
Message: PHP Startup: Unable to load dynamic library 'i360.so' (tried: /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so (libhs_runtime.so.5: cannot open shared object file: No such file or directory), /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so (/usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so: cannot open shared object file: No such file or directory))
Filename: Unknown
Line Number: 0
Backtrace: