บทความ SEO มี ข้อห้าม อย่างไรบ้าง ถ้าไม่อยากให้ เว็บไซต์ ของเรา ตกอันดับ ?

เอาล่ะ วันนี้ เรามาดูกันดีกว่า ว่า ในการทำ SEO นั้น มี ข้อห้าม อะไรบ้าง ที่เราไม่ควรทำ เพราะว่า ถ้าไม่อยากให้ เว็บไซต์ ของเรา นั้น ตกอันดับ ไปดูกันเลย

1. ปล่อยเว็บไซต์ให้ร้าง ไม่มีการอัปเดตอะไร ในการ ทำ SEO

การ ทำ SEO ซึ่งผู้ที่ค้นหาข้อมูล ก็ย่อมต้องการข้อมูล มีความที่น่าเชื่อถือ และ ข้อมูลนั้น ต้องเป็นปัจจุบัน สำหรับ Google เองนั้น ก็ชอบเนื้อหา ที่มีความสด, ใหม่ และเว็บไซต์ ที่มีการอัปเดตอยู่ อย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากเว็บไซต์ ที่ไม่มีการปรับปรุงใดๆ มาเป็นเวลานาน หรือว่ามีแต่เนื้อหาเก่า ๆ เดิม ๆ เหมือนทุก ๆ ครั้ง ที่เข้ามา เก็บข้อมูล ก็มีโอกาสสูง ที่ Google จะจัดเว็บไซต์ ที่อัปเดตกว่ามาขึ้นมาแทนนั่นเอง

แนวทางแก้ไข : ควรเพิ่มเติมเนื้อหา ให้อัปเดตตลอด ในเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ โดยการเขียนบทความ เขียนบล็อกต่าง ๆ เป็นต้น หากพบว่า หน้าเว็บไซต์ ที่ได้ทำ SEO นั้น เกิดมีอันดับตกลงไป ก็ควรอัปเดตเพิ่มเติมเนื้อเข้าไป

2. โพสข้อมูลซ้ำ ๆ ในเว็บอื่น ๆ ที่ไร้คุณภาพ ในการ ทำ SEO

หลาย ๆ คน มักใช้เว็บประกาศขายสินค้า (Classified) เป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าหรือว่าบริการต่าง ๆ แต่บางครั้งเว็บไซต์ที่โพสไปนั้น ก็เป็นเว็บที่เป็น Link Network ที่มี IP ของเว็บไซต์เหมือนกัน และเนื้อหาที่ได้นำไปโพส ก็เป็นข้อความเดียวกันหมด กลายเป็นว่าเราทำ Spam Backlinks เสียเองไง เมื่อโพสไปมาก ๆ เข้า อันดับของเว็บไซต์บน Google ก็จะค่อยๆ ลดลงๆ แทนที่จะดีขึ้นๆ อย่างที่คาดหวังไว้

แนวทางแก้ไข : ควรตรวจสอบ IP ของเว็บไซต์ ที่เราต้องการโพสก่อน หากพบว่าเป็น IP เดียวกัน หรือว่ามีความคล้ายคลึงกันก็ควรจะหลีกเลี่ยง และเวลาที่โพสควรมีข้อความหลายๆ แบบ อย่าใช้ข้อความเดียวกันทั้งหมดนะ หากได้โพสไปแล้วและพบว่าอันดับของเว็บไซต์แย่ลง ก็ควรไปลบโพสเหล่านั้นออก

3. ปล่อยให้เว็บไซต์ถูกแฮ็ก (Hacked) ในการ ทำ SEO

การแฮ็กเว็บไซต์นั้น ก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการปิดล็อคเว็บไซต์ เพื่อไม่ให้ใช้งาน หรือว่า แอบแก้ไขข้อมูล อาทิ นำเนื้อหาอื่นมาใส่ไว้ ทำ Backlinks ส่งออกไปยังเว็บไซต์อื่น ฝัง Malware พวกไวรัสในเว็บไซต์ เป็นต้น และเมื่อ Google พบปัญหานี้ ก็จะแสดงข้อความว่า "ไซต์นี้อาจถูกแฮ็ก" ไว้ใต้เว็บไซต์นั้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา เพื่อแจ้งเตือน เหล่าคนที่จะคลิกเข้ามา รวมทั้งอันดับ ของเว็บไซต์ ก็อาจจะตกลงมาด้วยเช่นกัน

แนวทางแก้ไข : หากพบว่าเว็บไซต์ของเรา นั้นมีข้อความ "ไซต์นี้อาจถูกแฮ็ก" บนหน้า Google ก็ให้ใช้ Google Search Console ในการตรวจสอบความปลอดภัย ภายในเว็บไซต์ (Security Issues) และแก้ไขให้เว็บไซต์ให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้น ก็ให้ส่งคำขอ กับทาง Google เพื่อให้ตรวจสอบเว็บไซต์อีกครั้ง และเพื่อนำข้อความที่ถูกแฮ็กนี้ออก

4. คัดลอกเนื้อหาหรือว่าเอารูปภาพจากเว็บไซต์อื่นมาใช้ ในการ ทำ SEO

บทความที่ได้คัดลอกมาจากแหล่งอื่น Google โดยที่ไม่มีการเรียบเรียงใหม่ ก็ถือว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ และมีโอกาสมากที่จะถูกแบนได้หากเจ้าของบทความมาพบเข้า และจะส่งเรื่องกับทาง Google ในหัวข้อ Copyright Removal เพื่อที่จะลบหน้า URL ที่ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นออกจาก Index และหากว่าเป็นรูปภาพ Google จะแบนทั้งรูปภาพนั้น รวมทั้ง URL ของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ที่มีภาพนั้นอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้อันดับของหน้าเว็บนั้น ก็จะหายไปจาก Google ทันที

แนวทางแก้ไข : หากต้องการนำบทความหรือว่ารูปภาพจากเว็บอื่นมาใช้ ก็ควรขออนุญาตเจ้าของบทความก่อน หรือว่าอาจจะทำ Backlink อ้างอิงให้กับ URL ต้นฉบับ หรือว่าอาจจะนำบทความมาเรียบเรียงใหม่ให้เป็นคำพูดของตัวเอง หรือว่าอาจหาข้อมูลมาเขียนประกอบเพิ่ม สำหรับรูปภาพก็อาจใช้รูปจากเว็บไซต์ฟรี ที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ เช่น Pixabay หรือไปซื้อจากเว็บไซต์ที่ขายรูปอย่างถูกต้อง เช่น Shutterstock ก็ได้เช่นกัน

5. ใส่รูปภาพ หรือว่า script ต่าง ๆ ที่มันมากเกินไปในการ ทำ SEO

เมื่อเราใส่เนื้อหา ที่มากเกินไป จนทำให้เว็บโหลดช้า ทาง Google ได้ใช้ความเร็ว ในการโหลดหน้าเว็บไซต์ (PageSpeed) ที่เป็นหนึ่งใน "อัลกอริทึม (Algorithm)" นอกจากนั้น ทางเว็บไซต์ที่โหลดช้า ก็จะส่งผลเสียต่อการเข้ามาเก็บข้อมูล ของทาง Google และยังส่งผลโดยตรง ต่อประสบการณ์ ในการใช้งานของเว็บไซต์ ผู้ใช้ที่เข้ามาแล้ว ก็อาจจะไม่รอและออกไปทันที ซึ่งก็ให้เกิดอัตราของการตีกลับ (Bounce Rate) ซึ่งล้วนส่งผลอย่างมาก ต่อการจัดอันดับของ Google

แนวทางแก้ไข : ตรวจสอบ PageSpeed ของหน้าเว็บไซต์ และปฏิบัติตามคำแนะนำ ในการปรับปรุงได้โดยเครื่องมือ Google PageSpeed Insights

และเหล่านี้เอง ก็ถือเป็น ข้อห้ามสำคัญ ในการ ทำ SEO ที่เรา ได้นำมาฝากทุก ๆ ท่าน เพื่อไม่ให้เว็บไซต์ ตกอันดับนั่นเอง รู้แบบนี้ ยังไงเว็บไซต์ก็ไม่มีร่วงแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม

เหตุผลที่ว่าทำไม คุณควรทำ SEO

SEO คืออะไร มีความสำคัญกับ เว็บไซต์หรือบทความออนไลน์ อย่างไร