ในปัจจุบันการทำ SEO นำมาใช้ให้ก่อเกิด ประโยชน์ ในด้านการสร้าง Lead สร้างรายได้ทาง E – Commerce หรือว่าสร้าง Community เพื่อไปต่อยอดทางธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพของ เว็บไซต์ ให้ดีขึ้น
จากการสำรวจจาก Gartner จะพบว่าการ ทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้น จะเป็นวิธีการสร้าง Lead ที่มีคุณภาพ อันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนที่เข้ามาหน้า เว็บไซต์ ( Website ) ของเรา ในรูปแบบของ Organic Traffic นั้น จะต้องการสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ ให้พวกเขาได้อยู่แล้ว ซึ่งก็จะเห็นได้ว่า SEO นั้นสามารถ Contribute ตอบโจทย์ ในด้านรายได้ให้กับ ธุรกิจ ที่มากถึง 58.8 % และยิ่งไปกว่านั้น ในบาง Segment อย่างเช่น Technology ซึ่งมีสัดส่วน ที่มากกว่า Paid Search และ Social เสียอีก
1. ทำไมถึงต้องทำ SEO
จากข้อมูลของ SEO โดยส่วนใหญ่ ที่พบกว่าทุก ๆ 1 นาที จะมีคนเข้าเสิร์ชหา สิ่งที่ต้องการบน Google กว่า 3.8 ล้านครั้ง เลยทีเดียว และจำนวน การเสิร์ช ต่อวันนั้น มากถึง 5.6 พันล้านครั้ง โดยที่ เว็บไซต์ ( Website ) ที่ขึ้นอยู่ใน หน้าแรก ๆ ของการ ค้นหา นั้น มีโอกาส ที่ลูกค้าจะ Click เข้ามาชม เว็บไซต์ มากกว่า ลำดับหลัง ๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ เลยทีเดียว ดังนั้นการที่ เว็บไซต์ มี SEO ที่ดีนั้น จะมีข้อดี ดังนี้
- ทำให้ เว็บไซต์ ( Website ) ของเรา ได้รับการจัดอันดับ ( Rankings ) ที่ดีขึ้น
- เพิ่มจำนวน Traffic เข้าสู่ เว็บไซต์
- เพิ่มจำนวน Conversion
- UX/UI ( Customer Signal )
- สนับสนุนการทำ SEM เนื่องจากมี Quality Score ที่มากขึ้น
- เอาชนะคู่แข่งได้ ในระยะยาว
2. การทำ SEO นั้น ทำครั้งเดียวจบ หรือต้องทำไปเรื่อย ๆ
การทำ SEO นั้น เป็นเหมือนการดูแล ร้านค้าออนไลน์ ของเรา ซึ่งต้องหมั่นดูแล และปรับปรุงอยู่เสมอ เพราะมีหลายๆ ปัจจัย ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ เว็บไซต์ ( Website ) ที่สามารถทิ้งระยะเวลานาน แล้วค่อยเข้ามาตรวจสอบได้ อย่างเช่น โครงสร้างของ เว็บไซต์ ( Site Structure ) วิธีการจัดหมวดหมู่สินค้า แต่ในช่วงเวลาที่เราเปิดร้านอยู่ และอยากให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการร้านค้า ของเรามากขึ้น เราก็ต้องหมั่นศึกษาเทรนด์ ของลูกค้า ในช่วงนั้น ๆ ไปด้วย ว่าลูกค้านั้นชอบอะไร และมีพฤติกรรมส่วนไหน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่ หรือมีคู่แข่งเจ้าใหม่ ๆ เข้ามาในตลาด หรือไม่ ฉะนั้นจึงต้องมีการทำ คีย์เวิร์ด์ Keyword Research เพื่อการอัปเดท เทรนด์ เรื่อย ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นอัปเดท Algorithm ของ Google อีกด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนหน้า เว็บไซต์ ( Website ) ให้เป็นไปตามกฎนั้น เพื่อให้ทาง Google เลือก เว็บไซต์ ของเรา ให้ขึ้นไปโชว์ เป็นหน้าแรก ๆ
3. เครื่องมือในการทำ Keyword Research เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ SEO
- Google Trends
Google Trends เป็นอีกหนึ่ง เครื่องมือฟรี จาก Google ที่มีหลากหลายฟีเจอร์ ที่น่าสนใจ ดังนี้
Trending Searches
ดูเทรนด์การ ค้นหา ยอดฮิตในช่วงเวลานั้นๆ ได้แบบรายวันจาก Daily Search Trends และสามารถจับไปทำ Real - time Content ได้อีกด้วย
- Google Search
อีกหนึ่งเครื่องมือ ที่ช่วยทำ คีย์เวิร์ด Keyword research ก็คือ Google Search โดยก่อนอื่น เราต้องมีคำตั้งต้น ของ คีย์เวิร์ด ( Keyword ) ที่เราต้องการ อาทิเช่น เสื้อผ้า แล้วเราสามารถนำคำ คีย์เวิร์ด ( Keyword ) นั้น ๆ ใน ค้นหา บน Google และไปดู Related Search ว่ามีคำ คีย์เวิร์ด ใด ที่เกี่ยวข้องกับคำ คีย์เวิร์ด ที่เราต้องการบ้าง ซึ่งเราสามารถ ใช้เป็นไอเดีย ในการนำ คีย์เวิร์ด ( Keyword ) เหล่านี้ มาเขียน คอนเทนท์ ( Content ) ได้เพิ่มเติมด้วย
Severity: Core Warning
Message: PHP Startup: Unable to load dynamic library 'i360.so' (tried: /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so (libhs_runtime.so.5: cannot open shared object file: No such file or directory), /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so (/usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so: cannot open shared object file: No such file or directory))
Filename: Unknown
Line Number: 0
Backtrace: