เป้าหมายสูงสุดของการทำ SEO นั่นคือการทำให้ เว็บไซต์ นั้นสามารถติด หน้าแรก บน Google ( กูเกิล ) แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนพยายามทำ บทความ SEO ด้วยตนเอง และอาจมีปัญหาคือ การตั้งใจเขียน คอนเทนต์ ออกมาดี และคิดว่าเป็น ประโยชน์ ต่อผู้อื่นแต่กลับไม่มีคนอ่าน
SEO หรือ ( Search Engine Optimization ) คือกระบวนการทาง การตลาดดิจิทัล ที่จะทำให้ เว็บไซต์ ( Website ) ของเราติด หน้าแรก ในการ ค้นหา บนหน้า Google ( กูเกิล ) ยิ่ง เว็บไซต์ ( Website )ของเราอยู่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสให้คนมองเห็น ถูกคลิก และอาจจะได้ ยอดขาย และ กำไร ในท้ายที่สุด ซึ่ง SEO สามารถทำให้ เว็บไซต์ ( Website ) อย่าง แบรนด์สินค้า หรือ ธุรกิจบริการ สามารถขึ้น หน้าแรก ของ Google ( กูเกิล ) เมื่อมีการ ค้นหา ด้วยคำ คีย์เวิร์ด ( Keyword ) ที่เกี่ยวข้องกับคนที่ทำ SEO กำหนดเอาไว้ โดยไม่ได้เป็นการซื้อ โฆษณา เพื่อที่แสดงผลบน Google ( กูเกิล ) Google Ads ซึ่งขั้นตอนการทำนั้น ต้องอาศัยองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งการใช้ Content ( คอนเทนต์ ) แบบ Onsite / Outreach / Blog ( บล็อก ) และรวมไปถึงการใส่ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) และการทำ แบล็คลิ้ง ( Backlink ) ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ เว็บไซต์ ของเราไต่อันดับจากหน้าท้าย ๆ ขึ้นมาจนถึง หน้าแรก แบบ Organic
การตั้งใจ เขียน SEO ด้วยตนเองอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการตั้งใจ เขียน คอนเทนต์ ออกมาดี และคิดว่าเป็น ประโยชน์ กับผู้อ่าน แต่กลับไม่มีคนอ่าน จนทำให้สูญเสียโอกาสที่จะทำให้ เว็บไซต์ ขึ้นอยู่ในอันดับต้น ๆ บนหน้า Google ( กูเกิล ) ซึ่งนั่นย่อมส่งผลให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะค้นพบหน้าร้านของเราลดน้อยลงไปด้วย
ขั้นตอนการเขียน บทความ SEO ให้ติดหน้าแรกบน Google แบบไม่เสียเงิน
1. การเลือก หัวข้อ ที่จะ เขียน ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นตอนแรก ในการ เขียน บทความ SEO เพื่อให้ติด อันดับ บน Google ( กูเกิล ) คือ การเลือก หัวข้อ ที่ตอบโจทย์ และตรงใจกลุ่มเป้าหมาย เพราะแน่นอนว่าถ้าหากเราเลือก หัวข้อ ที่กลุ่มเป้าหมายไม่ได้อยากรู้ บทความ ของเราก็จะไม่มีคนคลิกเข้ามาอ่าน ซึ่งวิธีการ ค้นหา ไอเดีย ในการนำมาสร้างสรรค์เป็น หัวข้อ ที่มีอยู่หลายวิธี อาทิเช่น การสำรวจจากกลุ่ม สังคมออนไลน์ ที่ไม่ว่าจะเป็นจาก เว็บไซต์ ( Website ) Pantip หรือ โซเซียลมีเดีย ต่าง ๆ เช่น Facebook, Line, Twitter เป็นต้น ซึ่งการศึกษาจากแนวทางคู่แข่ง เช่น เว็บไซต์ บล็อก ของคู่แข่ง หรือช่องทาง โซเซียลมีเดีย ของคู่แข่ง เป็นต้น
2. การใช้ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่คน ค้นหา เยอะ และสอดคล้องกับ เนื้อหา
Keyword ( คีย์เวิร์ด ) นับเป็นอาวุธลับที่สำคัญมาก ๆ ในการ เขียน บทความ SEO ให้ประสบความสำเร็จ โดยหาก บทความ ของเรามี Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่มีผู้คนใช้ ค้นหา เยอะเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าจะ เสิร์ช หา เว็บไซต์ ( Website ) ของเราเจอได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดในการ ค้นหา Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่คนใช้ เสิร์ช เยอะก็คือ การใช้ Google ( กูเกิล ) โดยการพิมพ์ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่เราคิดว่ากลุ่มเป้าหมายจะ ค้นหา ลงใน เว็บไซต์ ( Website ) Google ( กูเกิล ) แล้วดูคำที่แนะนำในแถบที่แสดงขึ้นมาโดย Google ( กูเกิล ) จะแสดง Keyword ( คีย์เวิร์ด ) หลักที่เราพิมพ์ และต่อด้วยคำขยายที่คนมัก ค้นหา คู่กัน
3. การ เขียน บทความ โดยใช้ คีย์เวิร์ด ให้ครอบคลุม และมีเนื้อหาที่ไม่สั้นจนเกินไป
เมื่อเราได้ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่คนใช้ ค้นหา เยอะมากที่สุด แล้วขั้นตอนต่อมาให้เราเริ่ม เขียน บทความ โดยใช้ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ให้ครอบคลุม ตัวอย่างเช่น การทำ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง การทำ Digital Marketing การทำ การตลาดออนไลน์ ซึ่งคำเหล่านี้มีความหมายเป็นไปในทำนองเดียวกัน ซึ่งการใช้ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่ครอบคลุมเหล่านี้จะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมาย เสิร์ช หา เว็บไซต์ เราเจอเมื่อใช้ Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ใด Keyword ( คีย์เวิร์ด ) หนึ่งในการ ค้นหา