สำหรับการ ทำ SEO Content ที่จะช่วยให้ บทความ ของเรา ติดอันดับ บน Google และทำให้มีคน ค้นหา เว็บไซต์ ( Website ) และ บทความ ของเรา เจอเพิ่มมากขึ้น อีกด้วย
การ เขียนบทความ SEO ต่างจากการ เขียนบทความทั่วไป อย่างไร?
ถ้าหากดูผิวเผินแล้ว บทความ 2 ประเภทนี้ อาจจะมีความคล้ายคลึงกัน ในแง่ที่ต้องเลือก หัวข้อ ที่น่าสนใจ และเขียนให้ถูกหลัก ไวยากรณ์ อ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ แต่ บทความ SEO จะต่างออกไป ตรงที่ นอกจากจะต้องเขียน ให้ถูกใจคนอ่านแล้ว ยังต้องเขียนให้ถูกใจ Google อีกด้วย เพื่อให้ Google เข้าใจว่า บทความ ที่เราเขียนไปนั้น กำลังพูดถึงเรื่องอะไร และเมื่อมีผู้คน ค้นหา Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ที่ตรงกับ บทความ ที่เราเขียน Google ก็จะจัดอันดับเรา ให้มาอยู่ใน หน้าแรก ๆ ของการ ค้นหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะช่วยดัน เว็บไซต์ ( Website ) ของเรา ให้ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับต้น ๆ ของการ ค้นหา และยิ่งอันดับดีเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาส ให้คนคลิกเข้ามาเจอ เว็บไซต์ ของเรา มากขึ้น เท่านั้น
หากอยากเขียน SEO Content ให้ติดอันดับ ต้องทำอย่างไร?
1. ควรกำหนด Keyword ( คีย์เวิร์ด )
สำหรับการ เขียน SEO Content นั้น จะต้องมีการ กำหนด Keyword ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับ บทความ ที่เราเขียน โดยต้องวิเคราะห์ ก่อนว่า กลุ่มเป้าหมาย ที่จะมาอ่าน บทความ ของเรา เป็นใคร และเขาจะใช้ Keyword อะไร ในการ ค้นหา และที่สำคัญ อย่าลืมว่า Keyword ที่เราเลือกใช้ ต้องมีปริมาณการ ค้นหา ( Search Volume ) ประมาณหนึ่ง ด้วย
ตัวอย่าง ง่าย ๆ ก่อนอื่น เราต้องดูว่า ประเด็นที่เราจะเขียนนั้น คืออะไร และเราสามารถ นำประเด็นนั้น มาเป็น Keyword ( คีย์เวิร์ด ) ตั้งต้นได้ อย่างเช่น การตลาด วันละตอน จะเขียนเรื่อง กลยุทธ์ ในการทำ การตลาดออนไลน์ และ Keyword ที่เหมาะสม ก็คือ กลยุทธ์การตลาด หรือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เป็นต้น
2. การใส่ Keyword ให้ถูกตำแหน่ง
การใส่ Keyword ควรแทรก ให้กระจาย อยู่ในส่วนต่าง ๆ ของ บทความ แต่ต้องไม่มาก จนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ Google มองว่า เว็บไซต์ ( Website ) ของเรา เป็นพวกสแปม คีย์เวิร์ด ได้ ซึ่งปกติแล้ว SEO Content จะมีความยาว โดยประมาณ อยู่ที่ 700 - 1,000 คำ ซึ่งจะมีปริมาณ Keyword ที่แทรกอยู่ ในส่วนต่าง ๆ ของ เนื้อหา นั้น ก็ควรจะอยู่ที่ ประมาณ 15 - 20 คำ
ตำแหน่งที่เราแนะนำ ให้แทรก Keyword เข้าไป ดังนี้
3. อย่าลืม Internal Link และ External Link เด็ดขาด
การใส่ Internal Link ( ลิงก์ภายใน เว็บไซต์ ) เพื่อให้สามารถ คลิกไปอ่าน บทความ หรือหน้าอื่น ๆ ใน เว็บไซต์ ที่จะสามารถ ช่วยเพิ่ม Traffic และ ทำให้ Google มองว่า เว็บไซต์ ( Website ) ของเรานั้น มีความเชื่อมโยง กัน ส่วนการใส่ External Link นั้น เป็นการลิงก์ ไปหา เว็บไซต์ อื่นภายนอก และยิ่งเป็นการลิงก์ ไปยัง เว็บไซต์ ที่น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพ Google ก็จะมองว่า เว็บไซต์ ของเรา มีคุณภาพ ไปด้วย