ก่อนอื่น SEO นั้นคือ อะไร ?
SEO หรือว่า Search engine optimization นั้นเป็น กระบวนการ ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ของ เว็บไซต์ โดยมีเป้าหมาย เพื่อปรับปรุงอันดับเว็บของคุณ ในหน้าผลการค้นหา และเป็นการเพิ่มปริมาณคน เพื่อเข้าเว็บแบบออร์แกนิก (ไม่จ่ายเงิน) ให้มากขึ้น โดยการเริ่มต้นทำ SEO มีมาตั้งแต่ ช่วงยุค 90 เมื่อ search engines ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ปัจจุบันนี้ ก็ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ และเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราจึงทำ SEO เพื่อการทำเว็บให้ติดอันดับหน้าแรก แบบธรรมชาติเท่านั้น ไม่ใช่การเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อการติดอันดับแบบลงโฆษณา (PPC) แต่ทั้ง SEO และ PPC เป็นส่วนหนึ่ง ของการตลาดบน Search Engine อีกด้วย
ซึ่ง SEO ถือเป็นการกระทำทั้งหมด ที่คุณนั้นต้องทำเพื่อให้ Google พิจารณาเว็บไซต์ของคุณ ว่านี่เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพและจัดอันดับให้สูงขึ้น สำหรับคำค้นหาที่คุณต้องการ ให้ถูกค้นหา
3 ปัจจัยสำคัญ ในการทำ SEO
1. Technical stuff เป็น การปรับแต่งทางเทคนิค ที่เปรียบเหมือน ชาม ใส่ซุป นั่นหมายถึง การปรับแต่งทางเทคนิคทั้งหมด ภายในตัวเว็บต้องทำให้ครอบคลุม (คนทำ SEO บางครั้งก็เรียกสิ่งนี้ว่า on-page SEO) หากไม่มีชามที่เหมาะสม ก็ไม่มีที่ให้ใส่ซุปแสนอร่อยได้นั่นเอง
2. Great content เป็นการทำเนื้อหาที่มีคุณภาพ น้ำซุปแสดงถึงเนื้อหา ของเว็บไซต์ของคุณ ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เนื้อหาคุณภาพต่ำ เท่ากับว่า ไม่ติดอันดับ ไม่มีอะไรซับซ้อน ของไม่อร่อย ก็ไม่มีคนต้องการ
3. Quality backlinks กาทำ Backlink ที่มีคุณภาพ ถือเป็นเครื่องปรุงเพิ่มรสชาติของซุป ให้ดียิ่งขึ้น Backlinks จึงเปรียบเหมือนเครื่องปรุงรสเพิ่มรสชาติให้กับซุปให้อร่อยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อให้มีคนติดใจ และแวะมาชิมซุปอีก แต่การเพิ่มเครื่องปรุง คุณต้องเพิ่มแต่พอดี และเลือกใช้เฉพาะเครื่องปรุง ที่ต้องมีคุณภาพเท่านั้น การทำ Backlink ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องทำอย่างมีคุณภาพ ถึงจะช่วยให้ ซุป SEO ของคุณนั้นสมบูรณ์แบบ
คำศัพท์ SEO ที่คุณควรรู้
เมื่อเริ่มเจาะลึกลงไปถึง เกี่ยวกับการทำ SEO คุณจะได้พบคำศัพท์ต่าง ๆ หรือว่า คำที่ใช้เปรียบเทียบ กับแนวทางการทำ SEO ต่าง ๆ อันได้แก่
On-page SEO & off-page SEO
คำว่า on-page และ off-page SEO เป็นการแบ่งประเภทพ ในการทำ SEO ที่ขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้น ได้ปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ ในเว็บตัวหรือว่าปรับแต่งนอกเว็บ
1. On-page SEO หมายถึง ทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้บนเว็บไซต์ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาไปจนถึงด้านเทคนิค เช่น
- Keyword research (การค้นหา Keyword)
- Content optimization (ปรับแต่งเนื้อหาต่างๆ)
- Title tag optimization (ปรับแต่งส่วน Title)
- Page performance optimization (ปรับปรุงประสิทธิภาพของบนหน้าเว็บ เช่น ความเร็วในการเปิดเว็บ)
- Internal linking (การทำลิงก์เชื่อมโยงกันภายในเว็บ)
เป้าหมาย คือ ทำให้ทั้งเนื้อหาบนเว็บนั้นมีคุณภาพและ UX ของหน้าเว็บในขณะที่กำลังแสดงผลบน Search engines ว่าหน้าเว็บนั้นเกี่ยวกับอะไร
2. Off-page SEO ความหมายโดยทั่วไป เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำ Backlink ที่มีคุณภาพ เพื่อเอาไว้แสดงให้ Search engines ได้รับรู้ว่าข้อมูลบนเว็บของเรามีความน่าเชื่อถือ และมีคุณค่า การทำลิงก์ อาจเกี่ยวกับข้องกับเทคนิคต่างๆ เช่น:
- Guest blogging (การเขียนบทความและเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์อื่นๆ)
- Email outreach (ทำให้คนเข้าถึงเว็บเราผ่านทางอีเมล)
- Broken link building (การมีลิงก์เสีย หรือว่าลิงก์ที่ไม่ดี)
Off-page SEO ยังเชื่อมโยงถึงการทำการตลาดออนไลน์ บนช่องทาง Social Media ต่างๆ ( อาทิ Facebook, YouTube) รวมถึงการสร้าง Branding ซึ่งมีผลทางอ้อมต่อการทำ SEO ช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือบนเว็บไซต์ของคุณได้
Ranking factors (ปัจจัยในการจัดอันดับ)
แน่นอนว่า Search engines ก็จะเก็บวิธีการคำนวณอัลกอริทึมที่แน่นอนไว้เป็นความลับ อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยด้านการจัดอันดับหลายอย่างก็ที่เป็นที่รู้จักกันดี เราสามารถคาดเดาได้ ซึ่งปัจจัยด้านการจัดอันดับเป็นหัวข้อที่มีการพูดคุยกันมากในโลกของ SEO และหลาย ๆ ปัจจัยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Google แต่ว่าก็ยังมีอีกหลายๆ ปัจจัยยังคงอยู่ในขอบเขตของการคาดเดาและเป็นแค่ทฤษฎี แต่ว่าในการลงมือทำ สิ่งสำคัญเลย ก็คือต้องโฟกัสไปที่ปัจจัย ที่พิสูจน์แล้วผลกระทบต่อการติดอันดับ และเราเองก็ต้องพยายามรักษา คะแนนที่ดีมาก ๆ ในทุก ๆ ปัจจัยไว้ด้วยนั่นเอง
อ่านบทความเพิ่มเติม