เราได้กล่าวถึงเทคนิคต่างๆในการทำ SEO ไปในหลายๆ บทความที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เราควรจะต้องรู้ก่อนที่จะทำ SEO ให้ยืนหนึ่งบน Google วันนี้เราจะพาดูการทำ SEO บนเว็บไซต์ตัวเอง แบบง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้ง่ายๆ ไปดูกันเลย
วันนี้เราจะพูดถึง Off-Page SEO หมายถึงการทำ SEO นอกเว็บไซต์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่สนใจอย่างมาก ในการทำ Off-page SEO ให้ดีและมีประสิทธิภาพได้ดีนั้น อาจจะต้องอาศัยไหวพริบและตรรกะผสมเข้าด้วยกันความรู้เชิงเทคนิค ยังคงไม่พอ ต้องไหวตัวให้ทันด้วย
Off-page SEO คือ ? เป็นเรื่องของการใช้ศาสตร์ และศิลป์เข้ามาประยุกต์ใช้บนเว็บไซต์ของคุณในการทำให้ได้ลิงก์กลับมา (Backlink) โดยได้กลับคืนมาจาก เว็บไซต์ที่มีได้รับความนิยมและมีคุณภาพ ซึ่ง Backlink แบ่งออกเป็น 2 ชนิด อธิบายดังนี้
DoFollow เ ป็นการที่เว็บส่ง Backlink ให้กลับมายังเว็บของคุณ และคุณก็ยังได้ปนะโยชน์เป็นSEO กลับคืนมาด้วย ส่วนมากแล้ว บรรดาเว็บไซต์ต่างๆ จะเน้นไปที่คุณภาพบทความ ซึ่งคุณเองก็น่าจะได้ DoFollow Link กลับมาเช่นกัน
NoFollow ก็จะหลักการคล้ายๆ DoFollow Link แต่จะเป็นส่ง Backlink กลับมายังเว็บของคุณ โดยที่เขาไม่ได้ส่งต่อประโยชน์จาก SEO มาให้คุณด้วย ในปกติแล้วลิงก์ที่เป็น NoFollow จะเป็น Link ในส่วนของคอมเมนต์ ลิงก์จากเว็บไซต์ Social Media ต่างๆ และลิงก์ที่เป็น Affiliate ถึงแม้ว่า Backlink แบบ NoFollow จะไม่ได้ส่งผลต่อ SEO โดยตรง แต่มันก็มีประโยชน์ทางอ้อมเหมือนกัน เช่นมันทำให้คนเห็นคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น จนอาจจะนำไปสู่ Backlink ที่เป็น DoFollow หรือถ้ามี Backlink ที่เป็น DoFollow ที่มากพอ ตัว Google เองก็อาจจะคิดว่าเว็บของคุณเป็นเว็บที่มีคุณภาพได้เหมือนกัน
Off-page SEO สำคัญอย่างไร?
เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญเลยดีกว่า Off-page SEO หรือการสร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพดที่ Google และ Search Engine ได้วิเคราะห์และบ่งชี้ ถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ ความนิยม ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วมันส่งผลต่ออันดับบน Google และโอกาสที่คนจะเจอเว็บไซต์ของคุณจากการ Search
น่าจะพอเข้าใจ Off-page SEO แล้ว ต่อไปเราไปเข้าประเด็นสำคัญกันเลย แล้วเราจะทำยังไงให้ Off-page SEO มันดีและมีประสิทธิภาพ
ซึ่งต้องบอกเลยว่า SEO มีหลากหลายวิธีมาก ไม่มีผิดไม่มีถูก แต่ในวันนี้เทคนิคที่เราจะลังจะพูดถึงเป็นวิธีที่ง่ายและ ทำได้เลย วิธีการทำ Off-page SEO แบบง่ายๆ
คอนเทนต์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ก่อนที่ผมจะเขียนถึงเคล็ดลับ เคล็ดวิชา หรือเทคนิคอะไรก็แล้วแต่ที่ช่วยในการสร้าง Backlink สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมอยากจะพูดถึงเป็นอย่างแรก และเป็นสิ่งที่ผมเน้นย้ำมาตลอดก็คือก็คือ การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
คอนเทนต์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องตอบโจทย์ทุกๆ คน หากแต่ว่าช่วยให้คนบางคน คนบางกลุ่ม แก้ไขปัญหาในสิ่งที่เขา หรือเธอกำลังเผชิญอยู่ หรือช่วยเพิ่มมูลค่าในสิ่งที่เขา หรือเธอกำลังทำ
จะรูปแบบไหนก็ตามแต่ เราก็สามารถที่จะเลือกใช้ รูปแบบเช่น บทความ วีดีโอ ภาพอินโฟกราฟฟิก หนังสือเสียง และอื่นๆ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสามารถเข้าถึงได้ง่าย
On-page SEO ต้องดี
On-page SEO เป็นสิ่งที่คุณควรทำตั้งแต่ตอนสร้างเว็บไซต์ และควรจะทำเพิ่มเติมทุกครั้งก่อนที่จะเขียนบทความ ทำ Sitemap บนเว็บไซต์, ทำ Keyword Research ผ่าน Google Keyword Planner ทุกครั้งก่อนเขียนบทความ, เลือกใส่ Focus Keyword ในตำแหน่ง และปริมาณที่เหมาะสมในบทความ, ใส่ Alt Tag ที่เหมาะสมลงไปในรูปทุกรูป แล้ว Google จะหาคุณง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะ
เทพแห่งBacklink อินโฟกราฟฟิก
อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ Off-page SEO ทั้งหมดทั้งมวล ทั้งบทความ วีดีโอ หนังสือเสียง หรืออะไรก็ตาม ไม่มีคอนเทนต์รูปแบบไหนที่จะสร้าง Backlink ได้ดี และคุ้มกว่าอินโฟกราฟฟิกอีกแล้ว
ตัวบทความ กับ อินโฟกราฟฟิก จะเห็นได้ชัดและง่ายว่าการดูข้อมูลเยอะๆ เป็นตัวอักษร ที่สำคัญน่าสนใจและเข้าใจง่ายกว่าเยอะเลย
เมื่อเทียบอินโฟกราฟฟิก กับวีดีโอ จริงๆการทำรูปแบบวิดีโอ ก็ถือว่าได้รับความนิยม กระแสตอบรับที่ดี แต่การทำ Off-page SEO ค่อนข้างที่จะมีอุปสรรค เนื่องจากใช้เวลาในการทำนาน และงบที่ใช้จ่ายเยอะ
ใช้สูตร 70 / 20 / 10 จัดการ Social Media ของคุณ
ถึงแม้ว่า Backlink ที่ได้กลับมาจาก Social Media จะเป็น NoFollow Backlink แต่ถ้า Social Signal เช่นจำนวน Like, Comment, Share และ Click มันมีจำนวนมากพอ Google ก็จะถือว่าเว็บของคุณมีคุณภาพ และจะส่งผลดีต่อ Off-page SEO ด้วยเช่นกัน โดยใช้สูตร 70 20 10 ดังนั้น
70 คือ 70% ของคอนเทนต์ทั้งหมดบน Social Media ของคุณจะต้องเป็นคอนเทนต์ที่สร้างคุณค่า และเป็นคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยากฟัง
20 คือ 20% ของคอนเทนต์ทั้งหมดบน Social Media ที่เป็นคอนเทนต์ของคนอื่น
10 คือ 10% ของคอนเทนต์ทั้งหมดบน Social Media ที่เน้นไปในเรื่องของการขาย การจัดโปรโมชั่น หรือแคมเปญต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมการขาย
และสำหรับประเทศไทย Social Media ที่มีคนเล่นมากที่สุดน่าจะเป็น Facebook, LINE และ Instagram ซึ่งผมแนะนำว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง 3 ตัว แต่ควรจะเลือกใช้เฉพาะตัวที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
Facebook Group มีพลังมากกว่า Page
สังเกตง่ายๆ เลยจะเห็น Notification โดยเฉพาะโพสต์บน Group บ่อยๆ
แม้ว่า Facebook จะปรับยอด Reach จากเพจต่างๆ ให้เหลือน้อยลง แต่กลับกันที่ Reach ที่มาจาก Group บน Facebook มีค่าสูงขึ้นๆ เพราะ Facebook มอง Community สำคัญมากกว่า Page
ฉะนั้นแนะนำให้คุณคือการใช้ Community ที่มีคนสร้างมาอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์ ถ้าคอนเทนต์ของคุณดี เอาไปปล่อยให้ตรง Group บางทีอาจจะได้ผลมากกว่าการโปรโมตใน Page ของคุณก็เป็นได้
ของดีต้องเสนอ นาย
Neil Patel นักการตลาดชั้นนำบนโลกออนไลน์ เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการทำคอนเทนต์ คุณควรจะใช้ 5 ชั่วโมงในการโปรโมทมัน” หลักการนี้บอกเลยอาจจะไม่ถึงกับเป็น 1 ต่อ 5 แต่คุณต้องให้เวลากับมันระดับหนึ่งเลย
สิ่งที่คุณคำนึงคือบอกให้พวกเขารู้เกี่ยวกับคอนเทนต์ดีๆ ของคุณเท่านั้นเอง
อาสาเขียนบทความ
คงไม่ดีแน่หากจะรอให้ เว็บที่แข็งแรง ยอมส่ง Backlink กลับมาหาเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อาจใช้เวลายาวนาน ฉะนั้น การอาสาเขียนบทความ (Guest Blogging) แล้วส่ง Backlink กลับมาหาเว็บของคุณผ่านตรงประวัติผู้เขียน ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก contentshifu
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำ SEO website ปรึกษา หรือบทความดีๆ ได้ที่นี่ SEOLNWZA