บทความ เครื่องมือช่วยทำ SEO ที่หลายคนอาจไม่รู้

หลายคนที่ทำ SEO ต้องมีการพึ่งพาเครื่องไม้เครื่องมือไม่ว่าจะโปรแกรม เครื่องมือวัดผลต่างๆ แต่รู้ไหมว่า Google Chrome มีฟังก์ชันที่ช่วยทำ SEO ด้วย แถมฟรีอีกต่างหาก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

     Extension หรือ ส่วนขยายของ Chrome ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักทั้งๆ ที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมอนิเตอร์ Stat หรือ เช็คค่าต่างๆ บนหน้าเว็บ เพราะเจ้าส่วนขยายสำหรับ SEO มีให้เลือกใช้งานเยอะมากมาย บางอันช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้นได้ ช่วยลดขั้นตอนต่างๆ มีทั้งแบบพื้นฐานและข้อมูลเชิงลึก

1. Lighthouse Extension

     เครื่องมือตัวนี้เอาไว้ใช้ในการดู Page Speed เพื่อ Optimize หน้าเพจ โดยจะแสดงคะแนนในหัวข้อ Performance, Accessibility, Best Practices และ SEO Score ของเว็บนั้นๆ ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็ว ส่วนข้อเสียคือ ไม่มีฟังก์ชัน Export รายงานตัวนี้ออกมาเป็นไฟล์ แต่จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ของ Chrome ขึ้นมาแทน

2. Web Developer Plugin

     เครื่องมือตัวนี้จะลงลึกในเชิงเทคนิค ผู้ใช้งานต้องมีความรู้เรื่อง Code เบื้องต้น แต่ปลั๊กอินตัวนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะผู้ใช้สามารถปิดการใช้งานบางอย่างได้ทันที เช่น JavaScript บางอัน หรือ การไฮไลท์ลิงก์เสียบนหน้าเพจ จัดหมวดหมู่ของ HTML

     หากใครเป็นสายเทคนิคเชิงลึกและต้องการจะวิเคราะห์ปัญหา Technical บนหน้าเว็บตัวเอง ปลั๊กอินตัวนี้จะทำหน้าที่แสดงโค้ด แล้วเมื่อผู้ใช้กดเข้าไปจะเด้งไปที่บริเวณนั้นทันที

3. Google Analytics Debugger

     เครื่องมือ Google Analytics Debugger จะช่วยให้คุณตรวจสอบ Code ในแต่ละเพจได้ ว่ามีโค้ดตัวไหนติดผิด ไม่ทำงาน หรือเกิดข้อผิดพลาดอย่างไรบ้าง ซึ่งช่วยให้ตรวจสอบข้อผิดพลาดในเว็บไซต์ได้สะดวก โดย Google Analytics Debugger จะค่อนข้างลงลึกในเชิงเทคนิค ผู้ใช้ต้องทราบเรื่องโค้ดพอสมควร

4. Observe Point

     เครื่องมือตัวนี้มีประโยชน์สำหรับสาย Analytics เพราะ Observe Point จะตรวจสอบ tag ในหน้าเพจนั้นๆ พร้อมรายละเอียดแบบครบถ้วน ว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นใน tag ไหน หรือ ทำงานไม่ตรงเป้าหมายอย่างไร แล้วจึงไปปรับแก้อีกที ซึ่งถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก

5. SEO Minion

     เครื่องมือตัวนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดฮิตที่คนทำ SEO หลายคนนิยมใช้กัน เพราะ SEO Minion ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน และมีข้อมูลให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเช็ค ลิงก์, On-page, SERP Preview และอื่นๆ ถือเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้เอง

6. SEOquake

     เครื่องมือที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของคนทำ SEO จุดเด่นของ SEOquake มีหลายส่วน เช่น การแสดง Ranking เว็บไซต์จากฐานข้อมูลสำคัญ เช่น Alexa, Google, Bing เป็นต้น การวิเคราะห์ความหนาแน่นของ Keyword On-page เพื่อนำไปปรับการทำ SEO On-page รวมไปถึงการเช็ค Backlink และ Internal link ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ครบเครื่อง

7. SimilarWeb

     เครื่องมือตัวนี้จะเน้นการวิเคราะห์เว็บตัวเอง หรือ เว็บคู่แข่ง ซึ่งส่วนมากเอาไว้ใช้ในการเช็ค Web Ranking โดยใช้ฐานข้อมูลของ SimilarWeb โดยข้อมูลมีเยอะและละเอียดพอสมควร, การแสดงผลมีทั้งอันดับเว็บไซต์แบบ Global และแบบในประเทศ, จำนวน User ที่เข้าเว็บ, ที่มาของ User Bounce rate, เวลาที่ใช้ในเพจ และอื่นๆ ที่สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้

8. MozBar

     เครื่องมือตัวนี้ใช้สำหรับการเช็คคะแนน DA/PA ว่าเว็บไซต์มีคะแนนเป็นอย่างไรบ้าง โดย DA (Domain Authority) คือ คะแนนเว็บทั้งเว็บ ส่วน PA (Page Authority) เป็นคะแนนของแต่ละเพจในเว็บนั้น

     คะแนน DA/PA เป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อ SEO ของเว็บไซต์ คนทำ SEO จะนำคะแนนตรงนี้มาเป็นเกณฑ์ในการสร้าง Backlink ด้วยเช่นกัน

     หวังว่าใครที่ทำ SEO แล้วยังไม่รู้จักหรือยังไม่เคยลองเครื่องมือเหล่านี้ จะได้ลองหามาใช้กันดูนะคะ เพื่อจะได้ใช้อำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ข้อมูล และทำให้การทำ SEO ของเว็บไซต์ง่ายขึ้น ลองนำไปเลือกใช้ตามความต้องการกันดูนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก makewebeasy

อ่านบทความเพิ่มเติม

Keyword Trend 2019 ที่คนไทยนิยมค้นหาบน Google

เพิ่ม Organic Traffic แบบไม่ต้องเสียเงิน