ทำ SEO ติดอันดับ Google Image Search นั้นมีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมาก จากสถิติแล้วลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการเมื่อรูปภาพสวยงามและน่าเชื่อถือ ซึ่งถ้าสินค้าหรือบริการไหนติดหน้าแรกของ Google สินค้าและบริการนั้นจะมีปริมาณผู้เข้าชมเยอะมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในธุรกิจของคุณมากขึ้น
ทำ SEO ติดอันดับ Google Image Search
1. Submit Sitemap
การทำให้ Google รู้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีรูปภาพอะไรบ้างเพราะการที่คุณจะแสดงรูปใน Google Image Search นั้น Google ต้องมีข้อมูลก่อนว่าเว็บไซต์องคุณมีรูปจำนวนเท่าไหร่และแต่ละรูปเกี่ยวข้องกับอะไร วิธีที่จะทำให้ Google รู้ข้อมูลข้างต้น คุณต้องทำ Submit Sitemap
Sitemap คือ ไฟล์คอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลว่าเว็บไซต์ของคุณมี URL อะไรบ้าง ซึ่งจะเปรียบเสมือนสารบัญที่บอกว่าเนื้อหาของเว็บไซต์คุณนั้นมีอะไรบ้าง Sitemap นั้นมีอยู่ 2 ชนิด ดังนี้
1.1.Default Sitemap
Sitemap ที่มีแค่ข้อมูล URL ของเว็บไซต์
1.2.Extension Sitemap
Sitemap ที่นอกจากจะมี URL แล้วยังมีรายละเอียดเพิ่มด้วยว่า แต่ละ URL มีไฟล์ประเภทรูปภาพ หรือ วิดีโออะไรบ้าง
เมื่อคุณ Submit Default Sitemap เพียงแค่อย่างเดียวผลที่ได้ คือ Google Bot จะต้องพิจารณาเองแต่ละ URL ว่ามีจำนวนภาพเท่าไหร่แต่ละรูปเกี่ยวข้องอะไรกับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดในการเก็บข้อมูลได้ เว็บไซต์ที่เสี่ยงเกิดความผิดพลาดจะเป็นเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่มีปริมาณ URL เยอะและแต่ละ URL มีหลายรูป เพราะพอมีจำนวนรูปที่เยอะแล้วความยากลำบากในการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลให้ Google Bot เก็บข้อมูลไม่ครบทุกรูปทำให้รูปตกหล่นไปและไม่แสดงบน Google Image Search ดังนั้นเมื่อคุณ Submit Extensions Image Sitemap ก็จะช่วยทำให้ Google Bot เก็บข้อมูลรูปภาพง่ายขึ้นเพราะรู้รายละเอียดของรูปภาพใน URL
2.ปรับแต่งรูปภาพ
หลังจากที่ Google รู้ว่าเว็บไซต์นั้นมีรูปภาพอะไรแล้วสิ่งที่ควรทำต่อไป คือ ทำให้รูปในเว็บไซต์ของคุณเป็นที่ต้องการไปปรากฏบน Google Image Search แต่ก็ต่างเจอปัญหา คือ รูปที่ไปปรากฏบน Google Image Search กลายเป็นรูปที่ไม่สวย ไม่ตรงกับเนื้อหา หรือ ไม่ใช่รูปที่คุณต้องการ ซึ่งก็มีวิธีแก้ คือ คุณต้องส่งสัญญาณให้ Google รู้ว่าคุณต้องการให้รูปนี้ไปปรากฏบน Google Image Search ด้วยการปรับแต่งรูป ดังนี้
2.1.ปรับแต่ง Alt Tag
Alt Tag คือ ตัวอักษรที่อธิบายรูปภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ Google นำมาพิจารณาว่ารูปนี้เกี่ยวข้องกับอะไร วิธีใส่ Alt Tag คือ
- ใส่ Keyword ที่ต้องการให้รูปภาพที่อยากให้ปรากฏ
- หลีกเลี่ยงการทำ Keyword Stuffing คือ การใส่ Keyword จำนวนมากใน Alt Tag เหตุผลที่ควรจะหลีกเลี่ยง คือ Google จะสับสนว่ารูปนี้เกี่ยวข้องกับคำอะไรกันแน่ ทำให้อาจจะส่งผลเสียเพราะ Google จะนำรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาแสดงเป็นภาพแรกๆ หาก Google ไม่แน่ใจว่ารูปนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเว็บไซต์ของคุณก็มักจะจัดลำดับไว้หลังๆ
2.2.วางตำแหน่งรูปให้ถูกต้อง
การวางตำแหน่งรูปให้ถูกต้องนั้นต้องมีหัวข้อ หรือ ข้อความที่เป็น Keyword ของเว็บเพจก็จะเพิ่มโอกาสสูงที่รูปนั้นจะปรากฏใน Google Image Search
3.ตรวจสอบรูปภาพใน Google
หลังจากที่คุณ Submit Sitemap และปรับแต่งรูปภาพแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ควรทำ คือ ตรวจสอบว่ารูปี่คุณต้องการให้ไปปรากฏบน Google Image Search นั้นเป็นไปอย่างที่คุต้องการหรือไม่
3.1.ตรวจสอบใน Google Search Console
คุณต้องไปที่ Google Search Console แล้วไปที่แผนผังเว็บไซต์ หลังจากนั้นคุณก็พิจารณาว่ามีจำนวนรูปภาพที่ถูกส่งข้อมูลและจัดทำดัชนีเท่าไหร่ หากคุณมีจำนวนรูปที่ถูกจัดทำดัชนีพอสมควรก็จะแสดงได้ว่า Google สามารถเข้าถึงข้อมูลรูปภาพของคุณแล้ว แต่ถ้าผลลัพธ์ที่ออกมาแสดงถึงจำนวนรูปที่ดัชนีน้อยผิดปกติ หรือ ไม่มีเลย นั้นแปลว่ารูปภาพในเว็บไซต์ของคุณเกิดปัญหาในการเข้ามาเก็บข้อมูลของ Google คุณต้องรีบแก้ไขทันที แต่ถ้าผลลัพธ์ปรากฏเป็นรูปจำนวนมากและมีรูปที่คุณต้องการปรากฏอยู่ก็แสดงว่าทำถูกต้องแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก contentshifu