สำหรับการทำ SEO เพื่อที่จะ สร้างยอดขาย นั้นแท้จริงแล้ว ไม่ใช่การโฟกัส เพียงแค่กน้าแรก ของเว็บไซต์ เพียงเท่านั้น แต่ทุกคนควรให้ ความสำคัญกับ SEO ในทุกหน้า ดังนั้นเราจะมาแนะนำ กลยุทธ์การทำ SEO หน้าสินค้า ให้ติดอันดับบน Google
การทำ SEO หรือ Search Engine ที่เราจะต้อง ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะ หน้าที่จะสามารถ สร้างยอดขาย ให้กับ ธุรกิจ ของเราได้ อย่างเช่น หน้าเพจ หน้าสินค้า เพราะว่า ถ้าหากเรา สามารถทำให้ หน้าสินค้า ติดอันดับบน Google ได้ โดยตรง ก็จะช่วยให้ ลูกค้าของเรา สามารถที่จะ เข้าถึงสินค้าได้ อย่างรวดเร็ว และยังช่วย เพิ่มโอกาส ในด้าน การขาย ให้กับธุรกิจ ของเราได้ เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น มาดูกันว่า กลยุทธ์การทำ SEO ถ้าหากเรา อยากจะทำให้ หน้าสินค้าของเรา ติดอันดับบน Google เราควรจะ ปรับแต่งหน้าเพจ ของเรา อย่างไร ได้บ้าง ?
1. การตั้งชื่อสินค้า เพื่อให้รองรับ ผลการค้นหา
ซึ่งหัวใจหลัก ที่สำคัญที่สุด ในการทำ SEO ของหน้าสินค้า ก็คือ การตั้งชื่อสินค้า โดยจะเป็นตัวกำหนด เลยว่า สินค้าของเรา จะติดอันดับใน คีย์เวิร์ด อะไรบนหน้าของ Google ซึ่งการตั้งชื่อ ของสินค้า ที่ดี มีดังต่อไปนี้
- คำค้นหา หรือ คีย์เวิร์ด : นั้นจะเป็น ตัวกำหนดว่า เราต้องการให้ สินค้าชิ้นนี้ ติดอันดับ คีย์เวิร์ด อะไร
- คุณสมบัติ อย่างเช่น ชื่อแบรนด์, สี หรือ ขนาด : เพื่อให้หน้าสินค้า ของเราได้รองรับ การค้นหาในแบบ Long tail Keyword หรือการค้นหา ที่มี ความเฉพาะเจาะจง ได้มากยิ่งขึ้น
- จำนวนที่เหมาะสม กับการตั้งชื่อ ซึ่งจะอยู่ที่ 60 ตัวอักษร : ก็เพื่อไม่ให้ ชื่อสินค้า ที่แสดงอยู่บน Google Shopping Tab หรือว่า Google Shopping Ads นั้น ถูกตัดออกไป
2. การปรับแต่ง URL
ซึ่งเป็นเรื่องง่าย ๆ ส่วนหนึ่ง ที่หลาย ๆ คนนั้น มองข้ามไป ก็คือ การทำ URL หรือ Friendly URL เพื่อให้เป็นมิตร หรือว่า การทำให้ลิงก์ ของเรา เหมาะกับ การใช้งาน โดยหลาย ๆ คน ที่ทำเว็บไซต์ E-Commerce ลงข้อมูลสินค้า ใส่ชื่อ ใส่ราคา ใส่รายละเอียดสินค้า เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมจะขายในทันที แต่กลับลืม สิ่งสำคัญไป นั่นก็คือ การปรับแต่ง URL นั่นเอง
3. การใส่คำอธิบาย ของสินค้า
ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์การทำ SEO คือ คำอธิบายสินค้า ที่เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ หน้าเพจของเรา มีโอกาส ติดอันดับบน Google ได้มากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ ก็ยังมีส่วนช่วย ในเรื่องของ การเพิ่มโอกาส ในการ ปิดการขาย ให้กับ เว็บไซต์ ของเราอีกด้วย โดยหลักในการ ใส่คำอธิบายสินค้า อย่างเช่น
- การมี คีย์เวิร์ด ( Keyword ) ที่แทรกอยู่กับ คำอธิบายสินค้า
- ควรหลีกเลี่ยง การใช้คำอธิบาย ที่ซ้ำกัน
- ควรที่จะมีเนื้อหา ที่ไม่ต่ำกว่า 300 คำ
4. การใส่ภาพประกอบ ของสินค้า
ซึ่งการใส่ภาพประกอบ ในคำอธิบาย ไม่เพียงแต่ จะช่วยในเรื่องของ ความสวยงาม อย่างเดียว แต่ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะช่วยให้ ลูกค้าของเรา เห็นภาพได้ชัดเจน และตัดสินใจซื้อ ได้ง่ายมากขึ้น และในมุมของ กลยุทธ์การทำ SEO ที่ Google ยังมองว่า เนื้อหาที่มี ภาพประกอบ ก็จะช่วยให้ ผู้ชมเว็บไซต์ หรือ ลูกค้าของเรา นั้นได้รับ ประสบการณ์ที่ดี มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับ คะแนน SEO อีกด้วย
5. การเลือก Heading Tag ให้เหมาะสม
สำหรับการจัดลำดับ ของความสำคัญ ของเนื้อหา ซึ่งจะช่วยให้ ผู้ใช้งานเว็บไซต์ ได้อ่าน และทำความใจ กับสินค้า ของเราได้ โดยง่ายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ การที่เราอ่านหนังสือ ที่มี การจัดวางบท หัวข้อใหญ่ เล็กไว้ เป็นอย่างดี ก็จะทำให้เรา สามารถที่จะอ่าน และทำความเข้าใจ หัวข้อต่าง ๆ ได้ง่ายดาย แต่เราก็ควรจะใช้ Heading Tag ให้เหมาะสมกับแต่ละด้วย และยังทำให้ติดโค้ดที่กำหนดหัวข้อ ไว้อีกด้วย เพื่อให้ Bot ของ Google ที่เข้ามาเก็บข้อมูลนั้นทราบว่า อันไหนคือ หัวข้อหลัก, หัวข้อรอง และเนื้อหา
นอกจากนี้ การใส่คีย์เวิร์ด ไว้ในหัวข้อที่เป็น Heading Tag ก็ยังช่วยให้ Google โฟกัสที่ คีย์เวิร์ด ได้ดีมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการ ติดอันดับ ให้กับหน้าสินค้า ของเราได้
6. การปรับแต่ง Meta Title กับ Description
สำหรับ Meta Title กับ Description นั้นเป็นข้อความ ที่จะแสดงอยู่บน หน้าผลการค้นหา ของ Google หากมีคนเสิร์ชคีย์เวิร์ด เพื่อค้นหาข้อมูล
เราเชื่อว่า หากเพื่อน ๆ นำ กลยุทธ์การทำ SEO เหล่านี้ไปใช้ ก็จะช่วยให้หลาย ๆ คน ที่ทำ SEO หน้าสินค้า ให้ติดอันดับบน Google ได้ อย่างแน่นอน หรือหากใครมีข้อสงสัยในเรื่อง กลยุทธ์การทำ เหล่านี้ ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับเราได้ที่ seolnwza.com กันได้เลย