ในปัจจุบันการค้นหาใน Google มาจาก Mobile 63 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าค้นหาใน Desktop เสียอีก ด้วยจำนวนของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้การค้นหาใน Mobile สูงขึ้นเรื่อย ๆ คุณจึงจำเป็นต้องกลับไปทบทวนดูว่าการทำ SEO สำหรับ Mobile Website ของคุณดีพอแล้วหรือไม่
การทำ SEO เพื่อ Mobile Website หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร เนื่องด้วยบริบทที่แตกต่างไปของ Device ทำให้พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ใน Mobile จึงแตกต่างไปจากเก่าเพราะพฤติกรรมต้องเปลี่ยนแปลงด้วยหน้าจอที่เล็กกว่า ความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่ไม่เท่ากัน User Interface ที่แตกต่างออกไป ระยะเวลากับความสะดวกที่ใช้ในการใช้เว็บไซต์ใน Mobile อาจจะไม่เหมือนตอนที่ใช้ Desktop เพราะเหตุนี้ Google จึงเล็งเห็นและพยายามปรับปรุงอัลกอริทึมในการค้นหาของตัวเองให้เกิดประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดกับผู้ค้นหา จึงทำให้บางเว็บไซต์ทำได้ดีใน Desktop แต่ไม่ได้อันดับดีใน Mobile
การทำ SEO เพื่อ Mobile Website
- ทำเว็บไซต์ Mobile Friendly
Mobile Friendly มีความสำคัญอย่างมากในการทำ SEO ใน Mobile เป็นอย่างมาก สำคัญถึงขนาดที่ Google แปะคำว่า Mobile Friendly เอาไว้ท้ายเว็บไซต์ที่ใช่ใน Mobile ได้ง่าย ถ้าคุณใช้ WordPress Joomla จะสามารถทำให้คุณลดงาน SEO ได้อย่างมาก คุณสามารถเช็ค Mobile Friendly ได้ด้วยตัวคุณเองผ่านเครื่องมือ Google Webmaster
- ลด Page Load Time ให้น้อยที่สุด
ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นเรื่องสำคัญและยิ่งสำคัญมากไปอีกเมื่อทำ SEO ใน Mobile เพราะ Google ให้ความสำคัญเรื่องระยะเวลาในการเปิดใช้งานเว็บไซต์เป็นอย่างมาก ซึ่งการโหลดควรจะน้อยกว่า 4-7 วินาที
- Local SEO คืออนาคตที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง
Local SEO กลายเป็นเรื่องที่กำลังพูดถึงเป็นอย่างมากในวงการ SEO ต่างประเทศ Local SEO เป็น Concept การทำ SEO ที่น่าสนใจ เพราะพฤติกรรมของผู้ค้นหาใน Mobile หลายๆครั้งค้นหาด้วยสถานที่หรือจุดหมายที่พวกเขาต้องการจะไปหรือค้นหาสิ่งที่อยู่รอบๆ เช่น คนหาร้านอาหารรอบๆตัว ค้นหาจุดหมายที่จะไปหรือค้นหาแผนที่ของสาขาร้านที่จะไป Local SEO จึงมีความสำคัญไมน้อย
- Short Keyword เกิดมาเพื่อ Mobile
เนื่องจากการค้นหาผ่านโทรศัพท์คนไม่ค่อยใช้ Keyword คำยาวๆกันมากนักจึงควรให้ความสนใจไปที่ Keyword สั้นๆมากกว่า แต่อย่าหลง Keyword คำสั้นๆหรือกว้างๆเพราะ 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกัน ทำทุกๆอย่างและประกอบกับการทำ SEO On-page และ SEO Off-page แบบดั่งเดิมควบคู่ไปด้วย
การทำ On-page SEO
- ไฟล์ Custom 404 Not Found Page มีหรือยัง
- แก้ไข Broken Internal Link
- ถ้ามีเว็บเพจย้ายไปที่ใหม่ ให้ Redirect
- ควรมี Internal Links ไปหน้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เกิน 60 ลิงก์
- Navigator ยิ่งน้อยยิ่งดี
- Title และ Description เป็นสิ่งสำคัญ
- Title กับ Description ห้ามซ้ำกัน
- ตั้งชื่อไฟล์ให้ครบ
- รูปก็ต้องมีชื่อ : Image Title และ Image Alt Text
- ตั้งค่า Heading (H1, H2) ให้เป็น
- Keyword สำคัญ คู่ควรกับตำแหน่งสำคัญ
- URL ที่ดี
การทำ On-page SEO เป็นการปรับแต่งสิ่งที่อยู่บนเว็บไซต์ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้ Google bot สามารถเข้ามาเก็บข้อมูล (Crawling) ไปทำดัชนี (Indexing) และจัดอันดับ (Ranking) และก็ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ผู้อ่านหรือว่าที่ลูกค้าของคุณด้วย 12 ข้อนี้ เป็นการรวบรวมปัจจัยหลักๆ ที่จะส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google มากที่สุด ซึ่งนักทำ SEO หลายคนมักจะมองว่าการทำ On-page SEO ดูเหมือนไม่ยาก แต่เรื่องเล็กๆเหล่านี้ก็ทำให้ใครหลายๆคนอาจจะละเลยไปได้ ถ้าคุณทำตามทุกๆอย่างแล้วเชื่อว่าเว็บไซต์ของคุณต้องมีอันดับที่ดีขึ้นแน่นอน แต่อย่าลืม Content (บทความ) ต้องดีและมีคุณภาพ