บทความ Page Experience กลไกสำคัญต่อการจัดอันดับ SEO

เพราะการทำ SEO มีความสำคัญต่อการจัดอันดับ เพื่อเพิ่มยอดขาย และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในส่วนของปัจจัยของการจัดอันดับให้เราได้ประโยชน์ที่สุดนั้น แน่นอนว่าต้องมีแน่นอน และหนึ่งในนั้นคือ Page Experience

     เมื่อเร็วๆ นี้ Google ได้ออกมาประกาศว่า จะเกิดการปรับเปลี่ยนในภาคส่วนของวิธีการจัดอันดับ Search Result อีกครั้ง โดยเป็นการเพิ่มปัจจัยใหม่ ที่เรียกว่า "Core Web Vitals" Signals รวมเข้ากับ "User Experience" Signals ซึ่งเป็นปัจจัยเดิม ที่ใช้จัดอันดับอยู่แล้ว เพราะการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถ ในการประเมินผลของการจัดอันดับ เพื่อให้ครอบคลุม Experience ทั้งหมด ที่ควรจะได้รับอย่างถี่ถ้วน โดยสามารถเรียกเหมารวมกันได้ว่า "Page Experience" Signals

Page Experience Signals มีอะไรบ้าง?

     Page Experince Signals มีการรวมเอา User Experience เข้ามา ซึ่งเป็น Signals เดิมที่ใช้อยู่ และหลายๆ คน อาจน่าจะเคยได้ยินกันแล้ว ในส่วนของ User Experience Signals จะประกอบไปด้วย

- Mobile Friendliness

- Safe Browsing

- Https

- No Intrusive interstitial

     สังเกตเห็นได้ว่า ในสี่ปัจจัยของ User Experience ข้างต้นนี้ จะเน้นไปในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล ของการใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งรวมไปถึงการใช้งานที่สะดวกบนมือถือ และไม่มีพวก Ads น่ารำคาญประเภทแสดงเต็มสกรีน ตั้งแต่ได้เข้าเว็บไซต์

     ในภาคส่วนของ Page Experience หรือ Core Web Vitals ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ก็จะเน้นไปทาง ความเร็วการโหลด และการตอบสนองต่อ Interaction ต่างๆ ของยูสเซอร์ ซึ่งจะประกอบไปด้วย สาม Signals หลัก นั่นคือ

- Largest Contentful Paint

- First Input Delay

- Cumulative Layout Shift

     First Input Delay คืออะไร FID คือ เมทริค ที่ใช้วัดระยะเวลา ตั้งแต่ที่ยูสเซอร์เริ่ม Interact ไปกับหน้าเพจ ดังเช่น การคลิ้กลิงค์ หรือการคลิ้กปุ่มต่างๆ จนถึงกระทั่ง Browser ที่มีการตอบสนองต่อ interaction ที่ยูสเซอร์กระทำ สำหรับเวลาที่แนะนำสำหรับ User Experience ที่ดี คือไม่ควรเกิน 100 Milliseconds

     Largest Contentful Paint คืออะไร LCP คือ เมทริค ที่ใช้วัดระยะเวลา รวมไปถึงตั้งแต่การโหลดเนื้อหาหลัก ( Main Content ) จนกระทั่งเนื้อหาแสดงครบสมบูรณ์บนหน้าเว็บ โดยตัวเลขที่เหมาะสม และควรจะต้องโหลด, แสดงผลเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน 2.5 Seconds

     Cumulative Layout Shift  คืออะไร CLS เป็นค่า Score ที่มีสูตรคำนวนโดยเฉพาะ สำหรับวัดเรื่องของ Layout หน้าเว็บ ที่ได้มีการแสดงผลแบบผิดปกติ ดังเช่น มี element บางอย่างเคลื่อนที่ไปมา หรือมีการกระตุกต่อเนื่องของ element บางอย่างบนหน้าเว็บ ซึ่งความผิดปกติของการแสดงผลแบบนี้นั้น จะมักส่งผลให้ User ที่ใช้งานเว็บ ไปทำการอ่าน คลิ้ก หรือ interact กับเว็บได้ค่อนข้างไม่สะดวก ซึ่งค่า CLS score ที่ดี ควรจะมีค่าน้อยกว่า 0.1

เครื่องมือแนะนำสำหรับอ่านค่า Core Web Vitals

     Google กำลังทำการอัพเดท Tools อื่นๆ เพื่อช่วยบอกรายละเอียดต่างๆ กับการปรับปรุงค่า Core Web Vitals ให้ดีขึ้น โดย Tools ที่สามารถใช้งานได้ ก็จะมีตามรายการด้านล่างนี้ ซึ่งอาจจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมใน Tools อื่นๆ ตามมาภายหลังด้วยเช่นกัน

- Lighthouse

- Chrome DevTools

- PageSpeed Insights

- Search Console’s Speed Report

Page Experience มีผลต่อการจัดอันดับอย่างไร?

     ถ้าหากจะตอบคำถามเรื่องนี้ หากอยากได้ตัวเลขที่ชัดๆ ตรงๆ ชัดเจน ว่าเท่าไรนั้น มันคงจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะ Google กล่าวไว้ว่า หน้าเว็บที่มีคะแนน Page Experience ที่ดี ย่อมมีผลต่อการจัดอันดับที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Content ที่มีประโยชน์ และตรงกับความต้องการของการค้นหา ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ และจะได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะมีคะแนน Page Experience ที่ต่ำกว่าก็ตาม จากคำกล่าวนี้ ก็ทำให้เห็นได้ชัดขึ้นว่า Page Experience ก็เป็น Signals เพิ่มเติม ( จาก Sianals เดิมที่มีอยู่มากมาย ) ที่เป็นส่วนช่วยในการจัดอันดับ ดังนั้น ก็คงไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก ในฐานะเจ้าของ หรือผู้ดูแลเว็บ ให้คอยหมั่นตรวจสอบปรับปรุงค่าต่างๆ เหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น เพราะจริงๆ เรื่องนี้นั้น ถือเป็นเรื่องที่เจ้าของเว็บ ก็ต้องควรทำอยู่แล้ว ถึง Google จะไม่ออกมาบอกก็เถอะ

     ฉะนั้นแล้ว Page Experience คือกลไกชิ้นส่วนสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่มีประโยชน์ต่อการจัดอันดับการทำ SEO อย่างยิ่ง เพราะสามารถทำให้เกิดผลตอบรับที่ดีมากขึ้นตามมาได้ ในฐานะของ Signals ชิ้นสำคัญ ต่อการทำ SEO ที่ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก googleanalyticsthailand

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

- กลยุทธ์ SEO หลังวิกฤตการณ์ Covid-19

- Black Hat กับ SEO สายวิชามาร