เมื่อสมัยก่อนถ้าจะถามทางหรือไปไหนสักทีก็ต้องถามคนที่เคยไปหรือ คนที่อยู่แถวนั้น จากตอนนี้ เรามี google map แล้วสามารถหาที่ไหนก็ได้หรือ หาร้านใดสักอย่างนั้นเอง
ประโยชน์จาก google map
Google Maps แจ้งเตือนเส้นทางรถติดได้
ปกติคนกรุงจะใช้ Google Maps ในการบอกเส้นทางว่าเส้นไหนติดเพราะ Google ติดตั้งโปรแกรม บอกสภาพการจราจร โดยบอกความหนาแน่นของรถไว้ ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้บอกได้ว่า รถจุดไหนติด ก็ได้เช่นเดียวกัน
OK Google ภาษาไทย เรียกหาปั้มน้ำมันได้
จากการที่ Google Assistant สามารถรองรับภาษาไทยได้แล้ว ทำให้เกิดความสะดวกสบายอย่างมาก โดยคุณสามารถเรียก Google Maps ระหว่างขับรถด้วยคำสั่ง OK Google เช่น OK Google (Hey Google) ปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ก็จะบอกขึ้นมาแล้วให้คุณเลือกว่าจะตกลงหรือยกเลิกก็ได้
Google Maps แจ้งเปลี่ยนเส้นทางได้ หากมีทางที่ดีกว่าอัตโนมัติ
หากคุณกำลังขับรถยนต์ไปจุดที่รถติดอย่างแสนสาหัส ถ้า Google Maps คำนวณว่าเส้นข้างๆ ไม่ติดแล้วใช้ระยะเวลาไม่ต่างกันมา ก็จะเปลี่ยนไปเส้นอื่น ซึ่งอาจจะเป็น เส้นเลี่ยงเมืองนั่นเอง
Google Maps กำหนดจุดหมายระหว่างทางได้
สำหรับฟีเจอร์กำหนดเส้นทางมากกว่าจุด A ไป B นั้นเป็นอีกฟีเจอร์ที่หลายคนไม่รู้ เพราะว่า มันก็เพิ่งเปิดไม่นานมากนี้ ซึ่งประโยชน์คือ ถ้ามันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือ ร้านอาหารดัง คุณก็สามารถกดแล้วแวะก่อนถึงที่หมายได้
จากที่เรารู้กันไปแล้วว่าประโยชน์ของ กูเกิล แมพส์ วันนี้เราหยิบยกข่าว ที่หน้าสนใจแล้วเกี่ยวข้องกับ GOOGLE MAP มาให้อ่านกัน
ชายชาวอเมริกันหายตัวไปกว่า 20 ปี แต่เพิ่งกู้ศพขึ้นมาได้ หลังมีคนเห็นรถยนต์จมอยู่ในทะเลสาบจากภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิลตำรวจมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 1997 ว่า วิลเลียม โมลด์ต ชายวัย 40 ปีหายตัวไปหลังออกไปเที่ยวไนท์คลับ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า โมลด์ตไปเที่ยวแล้วโทรหาแฟนสาวเมื่อเวลา 21.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ว่ากำลังจะกลับบ้านแล้ว จนเวลา 23.00 น. เขาก็ออกจากคลับ แต่ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย
ตำรวจสืบสวนสอบสวนกรณีการหายไปของเขาอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาถึง 22 ปี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์ในบ่อน้ำบริเวณมูนเบย์ เซอร์เคิล และเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ซากรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้ ก็พบศพอยู่ด้านในด้วย จากนั้นก็มีการชันสูตรแล้วว่าเป็นร่างของโมลด์ต
ตำรวจเปิดเผยว่า ชายคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณมูนเบย์เซอร์เคิลได้ค้นหาแผนที่ในกูเกิลและเปิดไปที่โหมดภาพถ่ายจากดาวเทียม แล้วก็พบว่า มีรถยนต์สีขาวจมอยู่ในบ่อน้ำ เขาจึงได้บอกเล่าให้คนที่ยังอาศัยอยู่บริเวณนั้น เขาจึงตัดสินใจใช้โดรนส่วนตัวบินไปสำรวจบริเวณที่เห็นซากรถยนต์ในกูเกิลแมพส์ แล้วก็พบว่ามีรถยนต์จมอยู่จริง จึงแจ้งตำรวจ
ตำรวจปาล์มบีชเคาน์ตีสันนิษฐานว่า รถยนต์ของโมลด์ตน่าจะสูญเสียการควบคุมจนตกบ่อน้ำไป แต่ก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในช่วงหลายปีก่อน รู้แต่เพียงโมลด์ตหายไป และตอนนี้เจอศพเขาแล้ว
รายงานจากชาร์ลีย์โปรเจกต์ ฐานข้อมูลคดีที่ยังปิดไม่ลงในสหรัฐฯ ระบุว่า โมลด์ตเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสังสรรค์มากนัก แต่วันนั้นเขาดื่มไปหลายแก้วก่อนจะขับรถยนต์ออกจากคลับ ส่วนภาพรถยนต์ที่จมอยู่ สามารถมองเห็นจากภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิลมาตั้งแต่ปี 2007 แล้วแต่ไม่มีใครเคยสังเกตมาก่อน จนกระทั่งปี 2019
ด้านแบร์รี เฟย์ เจ้าของบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดที่รถยนต์จมอยู่กล่าวว่า เขาไม่เคยมองเห็นรถยนต์จากริมบ่อน้ำเลย และไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีศพอยู่บริเวณนั้นมานานถึง 22 ปีแล้ว
เมื่อปี 2016 ก็มีกรณีคล้ายกันนี้ มีการพบรถยนต์จมน้ำในบ่อน้ำที่มิชิแกน ทำให้พบเดวี ลี ไนล์ส ชายวัย 76 ปีที่หายตัวไปนานหลายปี ทั้งที่รถยนต์คันดังกล่าวก็อยู่ในภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิลมานานหลายปีแล้ว
จะเห็นได้ว่า กูเกิลแมพส์ นั้นสามารถ ดูและยิ่งดาวเทียมได้อย่างที่เข้าใจมาตลอด จะทุกคนก็คงจะได้เข้าใจถึงประโยชน์ แล้วหากใครสนใจ หรือข่าว ไอที ก็ติดตามเราได้ตลอด คลิกที่นี่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก voicetv