บทความ Minor เดินหน้า เสริม แอปฯ 1112 เพิ่ม ฟังก์ชัน และ โปรโมชั่น

Minor Food  เดินหน้า เสริม แอปพลิเคชั่น 1112 โดยการเพิ่ม ฟังก์ชัน ขยายเวลาให้ บริการ และ โปรโมชั่น ทั้ง ลดราคา และ ของแถม มากมาย เพื่อลุย ตลาด ฟู้ดเดลิเวอรี่ พร้อมเจรจา ร้านอาหารญี่ปุ่น และ อเมริกัน

ตั้งแต่สถานการณ์ วิกฤติ โควิด -19 ส่งผลให้ ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ ของไทย เติบโตมากขึ้น ทำให้มีร้านค้า และ บริษัทยักษ์ใหญ่ ในไทย มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น แม้ไม่ได้ลงเพื่อแข่งขันกับเจ้า ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ รายใหญ่ ทุนหนาจากต่างประเทศ แต่สำหรับ ผู้เล่นหน้าใหม่ใน ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ อย่าง เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป แต่ด้วยมี ธุรกิจ เดิมที่หนุนหลังอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์

เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เป็นเจ้าของ แบรนด์ อาหารชื่อดัง อยู่หลายแบรนด์ และเป็นผู้ให้ บริการ เดลิเวอรี่ มาก่อน แต่เป็นการให้ บริการ ผ่านการ Call Center เป็นหลักเพียงเท่านั้น

โดยเฉพาะ การสั่งพิซซ่า The Pizza Company จนเมื่อปีที่แล้ว ได้ออกแอป 1112 Delivery ให้ผู้บริโภคสามารถ สั่งอาหารผ่าน แอปพลิเคชัน ได้ทั้ง 9 แบรนด์ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ได้แก่ The Pizza Company, Bon Chon, DQ, Sizzler, Burger King, The Coffee Club, S&P, Swensen’s และ Bread Talk

ในช่วง วิกฤติ โควิด-19 ทำให้ยอดการ สั่งอาหาร ผ่าน แอปพลิเคชัน ในตลาดได้เติบโต และก้าวกระโดด มาไกลมาก  และทำให้ยอด การสั่งอาหาร ผ่านแอป 1112 Delivery ของเดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เติบโตถึง 3 เท่า เลยทีเดียว

โดยยอดขายในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับสั่งกลับไปทานที่บ้าน เทียบกับ ยอดขาย ของปีที่แล้ว เติบโตอย่างมาก อย่างเช่น The Pizza Company โตขึ้นถึง 55% Swensens’s โตขึ้น 3 เท่า และ Bon Chon โตขึ้น 1.9 เท่า ในขณะที่สัดส่วน ยอดขาย อาหาร ผ่านบริการ เดลิเวอรี่ เติบโตจาก 14% ในปีที่แล้ว มาเป็น 30% ในปีนี้ ซึ่งปัจจัยที่ช่วยใน การกระตุ้น ให้เติบโต คือ โควิด-19 นั่นเอง

จากแนวโน้ม ที่เติบโต อย่างก้าวกระโดดของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จึงได้จัดการตลาดในธุรกิจใหม่ ด้วยการดึง บริการ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ผ่าน แอปพลิเคชัน 1112 Delivery แยกออกมาจาก ​​The Pizza Company มาเป็นหน่วย ธุรกิจใหม่ ภายใต้ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป มีการเพิ่มฟีเจอร์ ฟังก์ชัน เพื่อให้ตอบโจทย์ กลุ่มผู้ใช้งานมากขึ้น และได้เพิ่มรายการอาหารให้มาก และครอบคลุมมากที่สุด

และ ฟีเจอร์ใหม่ ที่เพิ่มมา คือ real time tracking,​ การสื่อสารระหว่างคนส่งกับลูกค้า, ​การสั่งอาหารล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน และ การสั่งแบบ Instant Order เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ ใน ประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตรา การเติบโต ต่อปีอยู่ที่ 7.9% มาตั้งแต่ปี 2014 และตลาดนี้ยังคงเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีมากกว่า 10% จากปี 2020 ไปจนถึงปี 2024

โดยภาพรวม ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ ราว 57% เป็นการ สั่งอาหาร จากร้านเล็ก ๆ เป็นธุรกิจ SMEs และอีก 43% เป็นการ สั่งอาหาา รจากร้านที่มีแบรนด์ ซึ่ง 9 แบรนด์ของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ได้ส่วนแบ่งการตลาด จากส่วนนี้ถึง 50% โดยที่สัดส่วนการ สั่งผ่าน แอปพลิเคชัน 1112 Delivery อยู่ที่ 86% ส่วนที่เหลือเป็นการสั่งผ่าน Call Center อยู่ที่ 8% และ หน้าเว็บไซต์ อยู่ที่ 6%

ซึ่งทั้ง 9 แบรนด์ของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ที่มีการสั่งไปทานที่บ้าน หรือ Delivery นั้น โดยเฉลี่ยเป็นการสั่งผ่านผู้ให้ บริการ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ของเจ้าอื่นประมาณ 25% สั่งผ่านบริการเดลิเวอรี่ของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป 75% ซึ่งบางแบรนด์มีสัดส่วน 50:50 โดย The Pizza Company จะสั่งผ่านบริการของบริษัทสูงถึง 80%

จาก แนวโน้มของ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ในส่วนของแบรนด์ จะเติบโตมากขึ้นจากสัดส่วน 43% ไปเป็น 50% ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งทิศทางของ บริการ ฟู้ดเดลิเวอรี่ของ 1112 Delivery จะมีการขยายให้กับแบรนด์ของกลุ่ม เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป มากขึ้น ในปีหน้านี้

โดย จุดแข็งของ บริการ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ของ 1112 Delivery คือ ความคุ้มค่า จากการบริการพิเศษที่ให้เฉพาะลูกค้า ที่ใช้บริการสั่งผ่าน แอป 1112 Delivery  ความหลากหลายของอาหาร และความสะดวกสบาย จากการบริการเดลิเวอรี่ ที่ได้มาตรฐานของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ซึ่งขณะนี้ได้มีการ ส่งฟรี ในระยะทาง 8 กิโลเมตร จนถึงสิ้นปีนี้ โดยขยายเวลาการให้บริการตั้งแต่ 07.00-02.00 น. ของทุกวัน ในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล

บทความเพิ่มเติม
Influencer อาชีพ ที่เติบโตใน ยุคดิจิทัล ของอุตสาหกรรม โฆษณา
แพลตฟอร์มการตลาดสุดล้ำ TikTok for Business