หลายธุรกิจส่วนใหญ่ในวันนี้ยังไม่ได้เริ่มทำเว็บไซต์ตัวเองให้ Personalization นั่นก็เพราะพวกเขาคิดว่ามันต้องยุ่งยากมากเกินไป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการจะทำเว็บไซต์เราให้ Personalization นั้นอาจไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิด
วันนี้มีกลวิธีในการทำเว็บไซต์ของเราให้ Personalized รู้ใจลูกค้าแต่ละคน ด้วยขั้นตอนที่เรียบง่าย และก็ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายอะไร แค่เข้าใจลูกค้าด้วย data บนเว็บ ดังต่อไปนี้
1. ทำให้ประทับใจตั้งแต่แรกพบ
คุณไม่มีโอกาสครั้งที่สองที่จะสร้างความประทับใจในครั้งแรก ดังนั้นคุณต้องทำให้ผู้ชมที่เข้ามาที่เว็บคุณเข้าใจตั้งแต่เห็นเว็บคุณครั้งแรกเลยว่าเว็บคุณคือเว็บอะไร และน่าสนใจอย่างไรบ้าง และที่สำคัญคุณต้องไม่ลืมว่า คนที่เข้ามาที่เว็บไซต์เราครั้งแรกไม่ได้เข้ามาตาม journey ที่เราคาดการณ์ไว้ ดังนั้นคุณต้องทำเนื้อหาและภาษาให้พร้อมเข้าใจได้แม้จะบังเอิญมาเห็นหน้านั้นเป็นครั้งแรก พร้อมกับการออกแบบที่ทำให้ผู้ใช้งานเว็บสามารถไปยังหน้าหลักได้โดยง่าย เพื่อให้เค้ากลับเข้ามายัง Journey ที่เราวางไว้โดยเร็วที่สุด
2. ลูกค้าปัจจุบันสำคัญที่สุด
ธุรกิจส่วนใหญ่หลงไปกับการมุ่งหาลูกค้าใหม่ จนลืมคุณค่าลูกค้าปัจจุบันไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วต้นทุนการหาลูกค้าใหม่สูงกว่าการรักษาลูกค้าเดิมไว้มาก เพราะคนที่ยังกลับเข้ามาที่เว็บคุณซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งนั่นเป็นสัญญาณที่ดี บางทีเขาอาจจะเข้ามาเพื่อหาข้อมูลตรงจากเว็บคุณเพิ่มเติม หรือเข้ามาดูคู่มือวิธีการใช้งานสินค้าที่เพิ่งซื้อไป
ดังนั้นด้วยการดูแลลูกค้าที่ดีอย่างการแสดงออกให้ลูกค้ารู้ว่าคุณจำเขาได้นะ และรู้นะว่าพวกเขาแต่ละคนสำคัญขนาดไหน โดยเฉพาะกับลูกค้าประจำยิ่งต้องดูแลให้ดีกว่าลูกค้าทั่วไปเพื่อทำให้เขารู้สึกดี และยินดีที่จะมาใช้เงินกับคุณมากขึ้น นั่นจะทำให้คุณสามารถทั้ง upsell และ cross-sell ได้สบายเลย
3. ทำ Personalized experiences ด้วย inbound link
เพราะคนที่คนที่กดลิงก์ของเว็บคุณมาจากแหล่งอื่น นั้นหมายความว่าเค้ามีความสนใจอะไรบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงที่จะเข้ามาอ่าน เช่น คนที่เห็นลิงก์ของเว็บการตลาดวันละตอนจากกลุ่มเฟซบุ๊กอื่นๆ จาก LinkedIn หรือจากที่เว็บอื่นแชร์เนื้อหาออกไปแล้วใส่ลิงก์เครดิตกลับมา นั่นหมายความว่าเค้าต้องมีความสนใจมากจนต้องยอมคลิ๊กเข้ามาอ่าน ถ้าคุณรู้แบบนี้แล้วคุณก็ควรจะให้เนื้อหาในสิ่งที่เค้าน่าจะสนใจต่อไปรอไว้ เช่น ในบทความที่เกี่ยวกับ Personalization ผมก็จะใส่ลิงก์ภายในเว็บที่เป็นเรื่อง Personalized Marketing เพื่อให้คนที่สนใจสามารถไล่อ่านต่อได้เรื่อยๆ
4. ดูแลแบบ VIP เมื่อมี Contact
เมื่อคนที่เข้ามาอ่านในเว็บคุณกลายเป็นผู้มีความสนใจอะไรบางอย่างในธุรกิจคุณมากขึ้น เช่น กดสมัครรับอีเมลจดหมายข่าวจากคุณ หรือ ดาวน์โหลดเอกสารบางอย่างออกไป นั่นหมายถึงโอกาสทองในการแนะนำ content ที่เค้าน่าจะสนใจต่อเนื่องให้ไปอีก เพราะพวกเขายอมให้ข้อมูลกับคุณกลับมา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อีเมล ที่อยู่ หรือข้อมูลอื่นๆ พวกเขากลายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจสำคัญคุณแล้ว
5. อ่าน Insight จาก Behavior ในเว็บ
อะไรก็ตามที่ผู้เข้าชมในเว็บทำนั่นหมายถึงสัญญาณ Insight บางอย่างที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าคุณตามดูพฤติกรรมของคนที่อยู่ในเว็บคุณแบบ real time คุณก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะเข้าใจ Insight จริงๆ ของเขามาขึ้น ด้วยการติดตามดูว่าเขาอยู่หน้านี้นานเท่าไหร่ จากนั้นไปกดอ่านหน้าไหนต่อ หรือพอเปิดหน้าถัดไปได้แปบเดียวแล้วก็ออกจากเว็บไปเลย
6. ให้ลูกค้าล็อคอินบนเว็บคุณด้วย Social media account
อีกกลวิธีที่ดีไม่น้อยในการทำ Personalization คือการใช้โซเชียลมีเดียของตัวลูกค้าเอง เพราะคนในวันนี้เล่นโซเชียลมีเดียกันเป็นส่วนใหญ่ และถ้าคุณทำให้เว็บคุณสามารถล็อคอินด้วยโซเชียลมีเดียได้ คุณก็จะได้ทั้งจำนวนคนสมัครสมาชิกที่มากกว่าการต้องกรอกใหม่หมด และง่ายต่อการได้ข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้า
อย่าลืมปรับแต่งเนื้อหาหรือลิงก์ข้างในให้ Personalized ด้วยการพยายามทำความเข้าใจลูกค้าง่ายๆ ในการทำเว็บไซต์คุณให้ Personalization กับลูกค้าแต่ละกลุ่มหรือลงไปถึงกระทั่งแต่ละคนได้จริง เริ่มจากการทำเว็บให้รู้สึกน่าอ่านต่อ จำลูกค้าแต่ละกลุ่มแต่ละคนให้ได้จาก Data แล้วก็เอา Insight ของพวกเขามาวิเคราะห์ดูว่ามี Journey อย่างไร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก everydaymarketing