บทความ จะทำอย่างไรดีอันดับ SEO ล่วง

บทความ www.seolnwza.com

แน่นอนว่าการทำเว็บไซต์นั้น หลายคนก็หวังที่จะเห็นเว็บไซต์ของตัวเอง ขึ้นหน้าแรกเมื่อเสิร์ชบน Search Engine นั้นๆ เนื่องจากมีหลากหลายปัจจัยในการจัดอันดับของ Google และแน่นอนว่า นักรบในสนามนี้ก็มีมากมายเช่นกัน มาดูกันว่า เราจะมีวิธี กลยุทธ์อะไรบ้างที่จะเอาชนะสงคราม SEO นี้ให้เชิดชูอยู่ได้ ไปดูกัน

how-to-do-better-seo-ranking-in-advance

โดยปกติแล้วการทำ SEO จะขยับขึ้นลงประมาณ 1-3 อันดับในการค้นหาแต่ละครั้ง ซึ่งบางครั้งก็หาไม่เจอเลยแต่ถ้าเวลาผ่านไปจะกลับมาอยู่ที่เดิมหรือใกล้ ๆ กับอันดับเดิมก็ถือว่าปกติอยู่ แต่ถ้าอันดับค่อย ๆ ไหลลงไปท้าย ๆ จากติดหน้าแรกไปอยู่หน้าที่ 5 แบบนี้ถือว่าผิดปกติ มีความเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะถูก Google ลงโทษ และที่เลวร้ายที่สุดคืออันดับของคุณจะหายไปเลยและจะไม่กลับมาเลยแม้ว่าจะรอเป็นเดือนก็ตาม เรียกอีกอย่างว่า “โดนแบน (Banned) การที่คุณโดน Google แบนแปลว่าคุณทำ SEO ไม่ถูกวิธี และการลงโทษด้วยการแบนจาก Google นั้นแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ

1. ระดับ URL คือ การแบนหน้าเว็บไซต์เป็น URL โดยเว็บไซต์อื่น ๆ ใน Domain เดียวกันยังอยู่ใน Index หรือฐานข้อมูลของ Google อยู่

2.ระดับ Domain คือ การแบนทุกหน้าเว็บไซต์ใน Domain นั้น ๆ เมื่อเช็ค Index ใน Google ก็ไม่พบหน้าเว็บอยู่เลย

สิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับ SEO

ปล่อยให้เว็บร้างไม่มีการอัพเดต ผู้ที่ค้นหาข้อมูลมักต้องการความน่าเชื่อถือและการอัพเดต ซึ่ง Google มองเรื่องนี้เป็นสำคัญ Google ชอบเนื้อหาที่สดใหม่และเว็บไซต์ที่มีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ หากเว็บไซต์ของคุณไม่มีการอัพเดตใด ๆ เป็นเวลานานหรือมีแต่เนื้อหาเก่า ๆ เดิม ๆ ทุก ๆ ครั้งที่ google เข้ามาเก็บข้อมูลก็จะทำให้ Google จัดเว็บไซต์ที่อัพเดตขึ้นอันดับมาแทนคุณได้

ปล่อยให้เว็บไซต์โดนแฮก การแฮกเว็บไซต์นั้นมีหลายรูปแบบ เช่น การปิดล็อคเว็บไซต์ไม่ให้ใช้งาน แอบแก้ไขข้อมูล ฯลฯ การนำเนื้อหาอื่นมาใส่ไว้ให้ Backlink ออกไปยังเว็บไซต์อื่น ฝัง Malware พวกไวรัสในเว็บไซต์ เมื่อ Google พบปัญหาก็จะแสดงข้อความว่า “เว็บไซต์นี้อาจถูกแฮก” ไว้ด้านใต้ของเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหาเพื่อแจ้งเตือนคนที่จะคลิกเข้าเว็บไซต์ รวมทั้งอันดับของเว็บไซต์ก็อาจจะตกลงมาเช่นกัน

เว็บโหลดช้า การใส่รูปภาพ หรือ Script ต่าง ๆ มากจนเกินความเหมาะสมจนทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดช้าก็อาจจะทำให้เสียอันดับได้เพราะ Google ได้ใช้ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ (PageSpeed) เป็นหนึ่งใน อัลกอริทึม (Algorithm) นอกจากเว็บไซต์ของคุณจะโหลดช้าก็ส่งผลเสียต่อการเข้ามาเก็บข้อมูลของ Google และยังส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของเว็บไซต์ ผู้ที่จะใช้เว็บไซต์ของคุณอาจจะไม่รอและออกไปทันที ซึ่งก็ให้เกิดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับ Google

โพสข้อความซ้ำ ๆ ในเว็บอื่นที่ไม่มีคุณภาพ หลายคนมักใช้เว็บประกาศขายสินค้า (Classified) เป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าหรือบริการ แต่ในบางครั้งเว็บไซต์ที่โพสไปนั้นเป็นเว็บที่เป็น Link Network ที่มี IP ของเว็บไซต์เหมือนกันและเนื้อหาที่นำไปโพสนั้นเป็นข้อความเดียวกันหมดกลายเป็นว่าคุณทำ Spam Backlinks เสียเอง เมื่อโพสบ่อย ๆ อันดับของเว็บไซต์บน Google ก็จะค่อย ๆ ลดลง

คัดลอกเนื้อหาหรือเอารูปภาพจากเว็บไซต์อื่นมาใช้ บทความที่คัดลอกมาจากแหล่งอื่น Google โดยไม่มีการเรียบเรียงใหม่ถือว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพ และมีโอกาสที่จะถูกแบนได้ถ้าหากว่าเจ้าของบทความมาพบเข้าและส่งเรื่องกับทาง Google ในหัวข้อ Copyright Removal เพื่อลบหน้า URL ที่ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นออกจาก Index และถ้าหากเป็นรูปภาพ Google จะแบนทั้งรูปภาพนั้น รวมทั้ง URL ของหน้าเว็บไซต์ที่มีภาพนั้นอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้อันดับของหน้าเว็บหายไป

อ่านบทความเพิ่มเติม