วันนี้เรานำแนวคิดโดยรวมที่สรุปมา บางธุรกิจอาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ เราเลยมีวิธีการรับมือที่ต้องแข่งกับแบรนด์ใหญ่ ดังนี้
1. มีความแตกต่าง (Differentiate) ถือว่าเป็นหัวใจหลักไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ง่ายที่สุดก็อิงเอาจาก 4P’s กล่าวคือ ทั้งแตกต่างในตัวสินค้า (Product), ราคา(Price), ช่องทางการจำหน่าย(Place), โปรโมชั่นต่าง ๆ (Promotion) ก็ต้องไปดูกันว่า เรามีความแตกต่างหรือยัง และความแตกต่างนั้น ต้องตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายที่ควรจะเป็นด้วยนะ
2. ความไม่แตกต่าง (Undifferent) ต้องทำความเข้าใจข้อนี้ แบบค่อย ๆ คิดย้อนกลับ เพราะการที่แบรนด์ใหญ่เข้ามาทำตลาดนั่นหมายถึง เขาอาจมีหลายสิ่งที่ดีกว่า เหนือกว่า เรียกว่าทำการบ้านมาอย่างดีแล้วแน่นอน ซึ่งหากรู้แล้วนิ่งเฉยนั้น มันก็รอวันแพ้
3. ราคาดีกว่า (Price Leadership) แม้ว่าหลักการราคา ส่วนใหญ่จะได้เปรียบเพราะ Economy of scale แปลไทยว่า ยิ่งเยอะยิ่งได้เปรียบ หลายสิ่งหลายอย่างที่อาจทำให้เรามีต้นทุนที่ไม่มากเท่าแบรนด์ใหญ่ ก็สามารถใช่แง่ราคามาทำตลาดได้ดี เพราะส่วนหนึ่งก็ยังมีคนที่มองเรื่องราคาเป็นหลักอยู่อีกมากมาย
4. ประสบการณ์ (Experince) สินค้าที่เป็นบริการ อาจได้เปรียบกว่าในแง่การสร้างประสบการณ์หรือความทรงจำ ยกตัวอย่างเช่น การส่ง Delivery บริการเช่นนี้สร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ลูกค้าได้ ถ้า Amazon ไม่มีนโยบาย ก็ถือว่าเราได้เปรียบ
5. ความรวดเร็ว (faster fish) เป็นสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจ หรือกิจการเล็ก ๆ สามารถทำได้ดีกว่าในหลายด้าน เช่น แง่ของการปรับตัว เมื่อพบเจอสิ่งที่ไม่ใช่ ไม่โดนใจลูกค้า ก็ปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที
6. การตลาดออนไลน์ (online marketing) แม้ว่าแบรนด์ใหญ่ บริษัทใหญ่ จะเริ่มครองพื้นที่สื่อออนไลน์ไปมาก แต่ก็ยังเหลือช่องว่างอีกมากมายในการใช้สื่อแนวนี้ ถ้าเราเป็นธุรกิจเล็ก เราสามารถ target เล็งเป้าหมายไปที่ local ท้องถิ่นได้เลย
7. การเข้าร่วม (join) ในเมื่อการมาของแบรนด์ใหญ่ หรือบริษัทใหญ่ ย่อมสามารถสร้างความได้เปรียบมากมาย แล้วเราจะไปแข่งขันทำไม ร่วมเข้าไปกับเขาเสียเลย!! แม้ธุรกิจจะเปลี่ยนสภาพแต่ก็เป็นการอยู่รอด และสร้างกำไรหรืออาจเติบโตได้ดีในระดับหนึ่งด้วย
8. เติบโต ยิ่งใหญ่ขึ้น (Growth) ถ้าเราจะแข่งขัน เราก็ควรโตพอที่จะแข่งขัน วันหนึ่งแบรนด์ใหญ่ก็อาจต้องลงมาเล่นในธุรกิจเดียวกับคุณ เว้นเสียแต่ว่าคุณเป็น Niche (ตลาดจำเพาะกลุ่ม) ที่มี Market size (ขนาดตลาด) ไม่มาก แบรนด์ใหญ่อาจไม่สนใจ ไม่คุ้มค่า แต่นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องการโต เพราะถ้าธุรกิจไหนโตย่อมมีแบรนด์ใหญ่ หรือบริษัทใหญ่ ลงมาด้วยแน่นอน
ถ้าว่ากันจริง ๆ มองว่าจะสถานการณ์ไหนๆ เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งใจมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า และทำให้ได้นานที่สุดจนถึงตลอดไป แบรนด์อะไร บริษัทอะไรจะมาก็ไม่สำคัญ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก sirichaiwatt.com
อ่านบทความที่น่าสนใจ