ผู้ใช้งานกว่า 52 ล้านบัญชี ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางการค้าขาย “โซเชียลคอมเมิร์ซ” และด้วยพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยน เฟซบุ๊กจึงต้องปรับฟีเจอร์ใหม่อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวตามไปด้วย
กัญญาณัฐ ปิติเจริญ (Facebook Thailand Client Solutions Manager) ได้มาแนะนำเทรนด์ของการทำตลาดบน “เฟซบุ๊ก(Facebook)” ที่เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลเข้าถึงคนไทย โดยมีผู้ใช้งานกว่า 52 ล้านบัญชี และยังมีผู้ใช้จำนวนมากใช้ เฟซบุ๊ก เป็นช่องทางการค้าขายผ่าน “โซเชียลคอมเมิร์ซ” ช่วยสร้างโอกาสการทำธุรกิจให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไปถึงบริษัทขนาดใหญ่
“โซเชียลคอมเมิร์ซ” ไทยเป็นผู้นำเทรนด์
กูรูออนไลน์มืออาชีพมาให้ความรู้กับผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี ( SME ) เพื่อใช้ช่องทางออนไลน์ทำการค้าขายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องบอกว่า “โซเชียลคอมเมิร์ซ เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากประเทศไทยและมีแนวโน้มเติบโตสูง เฟซบุ๊ก ( Facebook ) จึงพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ใช้งานสะดวก เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนมีธุรกิจของตัวเองได้”
ครีเอทให้ประทับใจในแวบแรก
ต้องบอกว่าพฤติกรรมผู้เล่นเฟซบุ๊กชาวไทย “ค่าเฉลี่ยในการหยุดดูต่อเรื่องจึงอยู่ที่ 1.7 วินาที” การทำงานครีเอทีฟให้โดนใจและขายของได้บนเฟซบุ๊ก ไม่ต้องเล่าเรื่องยาว เพราะผู้ใช้เฟซบุ๊กสมาธิสั้น ต้องเล่าเรื่องสั้นๆ และจับใจความได้ เพราะต้องดึงดูดผู้ชมและตัดสินใจหยุดดูตั้งแต่เห็นแวบแรก
ทำ คอนเทนต์ ( Content ) อย่างไรให้โดนใจคนยุคใหม่ 4.0
การทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก มีเครื่องมือการทำแคมเปญได้หลากหลายรูปแบบ เแนะนำ 3 เครื่องมือโฆษณาหลักๆ
1. Brand Awareness
แคมเปญ โดยเป็นการลงโฆษณาที่จะวิ่งไปหาคนที่มีท่าทีว่าจะหยุดดูโฆษณาของแบรนด์ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อ เพราะมีอาการสนใจแบรนด์
2. Click to Messenger
โดยปุ่มด้านล่างจะเขียนว่า Learn More หรือ Send Message เพราะหากคนสนใจจะสามารถกดมาพูดคุยต่อที่ Messenger ได้ทันที เน้นหาคนที่มีท่าทีจะกดมาพูดคุยต่อที่ Messenger
3. Sponsored Messages
โดยหลังจากที่มีคนจำนวนหนึ่งที่มีการทักทายและพูดคุยกันทาง Messenger แล้ว สามารถส่งข้อความไปหาคนที่เคยมาทักทายเพื่อให้ข้อมูลและโอกาสกระตุ้นการซื้อ
คอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ หรือ Story เวิร์คชัวร์!
ด้วยพฤติกรรมการใช้ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เริ่มขยับมาที่การดู Story มากขึ้น ปัจจุบันจึงเป็นเทรนด์ที่มาแรง “ทีวีเวอร์ชั่น 2019” หลังเปิดตัวประเทศไทยติดท็อป 3 ของโลก ทั้งจำนวนคนเล่นและคนดู Facebook Watch มาจากพฤติกรรมคนไทยชอบการดูวีดิโออยู่แล้วดังนั้นรูปแบบการโฆษณาต้องโฟกัสไปที่ Story ด้วยเช่นกัน เพื่อสื่อสารและติดตามลูกค้าไปทุกช่องทาง
ระบบของเฟซบุ๊กเป็นไปตามการใช้งานของผู้ใช้ เมื่อพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยน เฟซบุ๊กก็ต้องเปลี่ยนระบบตาม ให้ตอบโจทย์และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะพฤติกรรมและความสนใจของผู้บริโภคยุค 4.0 เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา “ผู้ประกอบการออนไลน์” ในยุคนี้จึงต้องมีความพร้อมทุกด้าน เกาะติดเทรนด์ให้ทันโลกที่เปลี่ยนไป เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องปรับตัวตาม เพื่อการเข้าถึงและความอยู่รอดทางธุรกิจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก positioningmag