การทำ SEO นับเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยดันธุรกิจ สิค้า แบรนด์ หรือบริการของให้ ให้คนอื่น ๆ ได้รู้จัก และทำให้เราเติบโตได้ ทุกวันนี้เป็นโลกของอินเตอร์เน็ต และเทคโนโลยี การทำ SEO จึงสำคัญมาก วันนี้เรามีแนวทางในการทำ SEO มาบอกทุกคน จะมีอะไรบาง ไปดูกันเลยดีกว่า
จะทำ SEO ต้องทำอะไรบ้าง
ส่วนมาก หลายบริษัทจะจ้างเอเจซี่ที่รับทำการตลาด ดูแลในเรื่องของการทำ SEO ลัวันนี้เราจะมาแนะแนวิธีการ ที่จะช่วยให้คุณทำงานกับเอเจนซี่ของคุณได้ง่ายขึ้น
1 ทำแผนการตลาดสำหรับการทำ SEO
การที่คุณทำการตลาดล่วงหน้า จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมงบประมาณได้ โดยขั้นตอนนี้ คุณจะต้องทำไปพร้อม ๆ กับเอเจนซี่ของคุณ เพื่อให้พวกเขาช่วยเสนอแนวทางและการใช้งบประมาณ ว่าควรลงเงินในการทำ SEO เท่าไหร่ และในส่วนของเรื่องค่าบริการเท่าไหร่ ระยะเวลากี่เดือน จะต้อมมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เสริมด้วยหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ หากคุณไม่วางแผนล่วงหน้าเอาไว้ อาจทำให้งบประมาณปานปลายได้ และควรที่จะคุยกับคนที่คุณว่าจ้างให้ชัดเจน เช่น จะมีรายงานผลการทำ SEO ทุกเดือนหรือไม่ หรือไม่ก็ เปลี่ยน Keyword ได้กี่ครั้ง และใครจะเป็นคนกำหนด Keyword เป็นต้น
2 ค้นหา Keyword ที่ต้องการให้เว็บของคุณติดอันดับ หรือนำมาทำ SEO
หากว่าคุณเพิ่มเริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ ยังไม่มีข้อมูลอะไร สามารถเริ่มทำได้ด้วยการค้นหา Keyword เป็นอันดับแรก ซึ่งถ้าคุณจะลองค้นหาด้วยตัวเอง ก็จะมีเครื่องมือที่ช่วยในการค้นหา ดังนี้
เป็นเครื่องมือที่ทาง Google ออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้ค้นหา Keyword อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบค่าต่าง ๆ ว่า Keyword แต่ละคำนั้น มีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร จุดประสงค์หลักของเครื่องมือนี้ คือเอาไว้ช่วยให้คนที่ทำ Google Ads สามารถวางแผนโฆษณาของตัวเองได้ดีขึ้น แต่ก็สามารถนำมาปรับใช้สำหรับการทำงานด้าน SEO เพื่อดูสถิติของ Keyword ได้เช่นกัน
วิธีการก็คือ ให้คุณพิมพ์ Keyword ที่คิดขึ้นได้ แต่ต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือบริการของคุณ เมื่อได้ Keyword ก็มาลองดูที่ Search Volume ว่าคำไหนเป็นที่นิยมบ้าง แล้วจึงเลือกมาสัก 3 – 5 คำ จากนั้นค่อยเอาคำเหล่านั้นที่คุณได้เลือกมา ไปปรึกษากับคนที่ทำ SEO ให้คุณ เพื่อเข้าสูกระบวนการทำงานอื่นต่อไป
เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้หา Keyword ที่หายเอเจนซี่ชอบใช้กัน ความสามารถของเครื่องมือนี้ก็คือ คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีเว็บไซต์ไหนบ้างที่ลิงค์มาหาเว็บเป้าหมายที่เราตั้งใจจะส่งลิงค์ไป ทำให้เราสามารถดูสถานการณ์ของคู่แข่งแล้วนำมาปรับกลยุทธ์ของตัวเอง ว่าควรทำ Backlink จากที่ไหนก่อนหรือหลัง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบ Backlink ของเราและคู่แข่งได้ เพื่อดูว่าอันไหนเหมือนกันบ้าง ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาสร้าง Backlink ซ้ำ
3 ปรับแต่งเว็บไซต์
สำหรับเว็บไซต์ที่จะได้คะแนนจาก Google จะต้องเป็นหน้าเว็บที่มี Content ที่แฝงไปด้วย Keyword ในตำแหน่งต่าง ๆ กระจากอยู่ทั่วทุกหน้าของเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ที่ SEO ขึ้นเร็ว ๆ จะมีลักษณะที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ มีตัวหนังสือเยอะ หรือที่เรียกว่า Onsite ตรงส่วนนี้อาจทำเพียงส่วนเดียวเลยก็ได้ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง Keyword และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ Link ที่จะต้องใส่ภายในเว็บไซต์ของตัวเอง กับ Link ที่แปะไว้นอกเว็บแล้วชี้เป้ากลับมาที่เว็บไซต์ของตัวเอง
**เพื่อให้การทำ Onsite มีคุณภาพดีที่สุด ควรตรวจสอบทุก ๆ 6 เดือน ถึง 1 ปี เพราะอาจจะมีบาง keyword หรือ Link ที่เสียไป
ดังนั้น ในทุกหน้าบนเว็บไซต์ของคุณควรมีข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือ และสอดแทรก Keyword ที่คุณกำหนดเข้าไปด้วย เพราะ Google จะอ่านเว็บของคุณได้จากตัวหนังสือเหล่านี้ แต่อย่าใส่ Keyword เยอะมาเกินไป เพราะ Google อาจจะมองว่าเป็นแสปม
และวิธีการอัพเดทเว็บไซต์ที่นิยมทำกันก็คือ การทำ Blog หรือ Content ที่เป็นบทความแบบยาว วิธีการก็คือ เขียนเนื้อหาในหัวข้อที่สนใจ และแฝง Keyword ลงไปในบทความด้วย บทความเหล่านี้เป็นอีกตัวช่วยสำคัญของการทำ SEO
4 ส่ง Content ไปสู่เว็บไซต์ของนอก
วิธีการนี้จะเรียกว่า Outreach โดยส่วนประกอบของ Content ประเภทนี้นอกจากจะแฝง Keyword ลงไปในคอนเทนต์ด้วยแล้ว ยังมีการแทรกลิงก์เพื่อทำเป็น Backlink
5 ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไข
การทำ SEO ไม่ใช่การทำแล้วปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เพราะอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง คุณจะต้องเข้ามาดูการจัดลำดับของ Keyword ที่คุณได้ทำการกำหนดเข้าไป รวมถึง Rank ของเว็บไซต์ ว่าตอนนี้ Keyword คำไหนบ้างที่ติดหน้าแรก แล้วค่อยมาโฟกัสที่คำอื่น ๆ ที่ยังไต่อันดับขึ้นเรื่อย ๆ โดยการทำ Outreach Content ส่งออกไปตามเว็บต่าง ๆ แต่ถ้าหาก Keyword ของคุณกว้างเกินไป การทำ SEO อาจจะเห็นผลช้า หรืออาจจะไม่เห็นผลเลยก็ได้ ดังนั้น ในบางกรณีคุณอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน Keyword บางคำใหม่
6 ใช้ Social Media เป็นตัวช่วยในการทำ SEO
เราสามารถใช้ Social Media มาช่วยทำ SEO ได้ โดย Social Media จะช่วยในแง่ของคอนเทนต์ที่แชร์ออกไป อาจจะเป็น Outreach หรือ Blog ก็ได้ เพราะในคอนเทนต์เหล่านั้นที่เราใส่ Keyword พร้อมกับทำ Banklink ไว้อยู่แล้ว เมื่อมีการแชร์เยอะ มีคนอ่านเยอะ คะแนนของ Keyword นั้น ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยตามลำดับ
อ่านบทความเพิ่มเติม