ฟังก์ชัน Google Assistant ถูกพัฒนาให้มีการใช้ภาษาที่ง่ายๆ คล้ายกับการสนทนากับคนมากขึ้น ต่อไปนี้ผู้ใช้สามารถคุยกับมันด้วยรูปแบบคำถามที่หลากหลาย และ ไม่มีข้อจำกัด โดยโครงการสำคัญ ของ google นั้นจะพัฒนายังไงให้ประสบผลสำเร็จบ้าง ไปติดตามอ่านกันค่ะ
ปรับการพูดเสียงใหม่
คงเคยได้ยินเสียงเดิมอยู่แล้วใช่ไหมว่ามันไม่สบายหูเอาเสียเลย Google ทราบถึงปัญหานี้ดีจึงได้ทำการปรับการพูดเสียงใหม่โดยใช้เทคโนโลยี Wavenet จากทาง Deepmind เข้ามาช่วย ให้มีความใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น โดยชุดแรกมี 6 เสียงและโดยหนึ่งในเสียงที่เพิ่มเข้ามาก็มีการดึงตัว John Legend นักร้องชื่อดังมาเป็นต้นเสียงให้อีกด้วย
พูดคุยต่อเนื่องไม่มีสะดุด
แทนที่จะต้องปลุก Google มารับคำสั่งทุกรอบ แต่ปัญหานี้จะค่อยๆ หมดไป เพราะฟีเจอร์ “Continued Conversation” จะสามารถทำให้เราคุยได้แบบต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องปลุก Google มารับคำสั่งทุกรอบ และมันจะเข้าใจว่าถ้าเราคุยต่อเนื่องอยู่ เราน่าจะถามเรื่องอะไรอีกด้วย
สั่งได้หลายคำสั่งในครั้งเดียว
ด้วย Multiple Action เราสามารถสั่ง Google Assistant เชื่อมโยงกันระหว่างวลีหลายชุด และประโยคคำสั่งเดียวสามารถใส่หลายคำสั่งได้พร้อมกัน เช่นในวันนี้กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการฝนจะตกไหม? โดยที่ไม่ต้องบอกว่า วันนี้กรุงเทพมหานครฝนจะตกไหม, วันนี้สมุทรปราการฝนจะตกไหม สั่งได้เลยทันทีโดยไม่ต้องสั่งแยกอีกต่อไป
ใช้คำพูดสุภาพ
Assistant ถูกออกแบบมาให้ทำงานตามคำสั่ง ไม่ว่าคนสั่งจะพูดไม่เพราะเพียงใด Assistant ก็ต้องทำตาม ทางทีมพัฒนาจึงได้มีการเพิ่มฟีเจอร์บังคับให้พูดเพราะๆ ต้องมี Please ในทุกคำสั่งเพื่อฝึกนิสัยด้วย และหากผู้ใช้พูดสุภาพด้วยก็จะชมเชยกลับมา
ถามตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
ในอนาคตความสามารถของ Assistant จะสามารถขึ้นไปถึงระดับโทรคุยกับคนจริงๆ ได้อย่างรู้เรื่อง ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนา แต่ Google ก็จะยังพัฒนาต่อไป ในงานจะมีการเดโม และบอกว่า Google Duplex นี้ยังอยู่ในระหว่างการวิจัย อาจจะยังไม่พร้อมเปิดให้ใช้งาน เร็วๆนี้ ซึ่งถ้า Google ทำสำเร็จได้น่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแวดวงธุรกิจกันอีกมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม google ไม่ได้ทำแค่แอพพลิเคชั่นนี้อันเดียวแน่ เพราะยังจะมีคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่ทำมาให้คนได้ใช้งานเยอะ และหวังยอดผู้ใช้งานทั้งนั้น ในอนาคตก็ยังคงมีแอพพลิเคชั่นอะไรมาออกเรื่อย ๆ ต้องติดตามกันต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก am2bmarketing