อธิบดีกรมสรรพากรไทยยืนยันกับสำนักข่าว Reuters ว่าเตรียมพร้อมเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซในปีหน้า คาดว่าจะเปิดตัวภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2020 โดยมีเป้าหมายที่จะรวบรวมภาษีเป็นรายได้แผ่นดินให้ได้ 3-4 พันล้านบาท (98-131 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปี
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการเก็บภาษี e-commerce เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กฏหมายภาษี e-commerce จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาไทยภายในปีนี้ แต่ยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมถึงกรอบเวลาว่าจะเริ่มช่วงเวลาใดของปี
การจัดเก็บภาษี e-commerce นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ธุรกิจออนไลน์ของไทยกำลังเติบโตทั่วประเทศ วันนี้ผู้ประกอบการไทยขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรงผ่าน Facebook , Instagram และ Line ซึ่งเป็นบริการสัญชาติญี่ปุ่นที่ฮอตฮิตมากในสังคมไทยทุกระดับ
ข้อมูลจาก Reuters ย้ำว่าตลาด e-commerce ไทยเติบโตเพราะแรงหนุนหลักจากที่ประชาชนคนไทยเริ่มอัปเกรดมาใช้แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือหรือ mobile banking app มากขึ้น ทำให้การโอนเงินทำได้รวดเร็วและง่าย สถิติชี้ว่ายอดขายผ่านสื่อโซเชียลในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.342 แสนล้านบาท (1.092 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2017 ตัวเลขสวยหรูนี้มาจากรายงานล่าสุดจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศหรือ Electronic Transaction Development Agency ของประเทสไทย สำหรับในมุมของกรมสรรพากร นายเอกนิติกล่าวว่ารัฐบาลตั้งเป้าเก็บภาษีรวม 2 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. นี้
สำหรับปีงบประมาณถัดไป อธิบดีกรมสรรพากรย้ำว่าจะเก็บภาษีให้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.116 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้อาจจะมีภาษี e-commerce ปีแรกรวมอยู่ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก thumbsup