การเขียนโครงสร้าง สำหรับการนำเสนอแผนธรุกิจแก่ลุกค้า สำหรับการเริ่มต้นที่ดี เราแนะนำ Business Model Canvas เป็นโมเดลโครงสร้างธุรกิจไว้ จบ ครบ ในที่เดียว ลูกค้าเข้าใจ เราแฮปปี้
การเริ่มต้นจะทำธุรกิจ สินค้า หรือ บริการ ของเราต่างจากคู่แข่งยังไง ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ มีจุดเด่นด้านใด ทำไมลูกค้าต้องมาใช้บริการ หรือ ซื้อสินค้าของเรา เพื่อนำมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ผ่านคอนเทนต์ต่างๆ โดยต้องชี้ให้เห็นถึงจุดเด่น และ ความแตกต่าง ของเราเองด้วย
หลังจากการวางกลุ่มเป้าหมาย ได้แล้วนั้น เมื่อได้กลุ่มคนที่จะซื้อสินค้า หรือ บริการของเราแล้ว ก็จะต้อง รักษากลุ่มลูกค้า เหล่านี้ และ หาหลุ่มลูกค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น ในคือ การรักษาฐานลูกค้า เพราะการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เปอร์เซ็นต์ยากกว่า การหาลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าเก่า เราต้องสร้างความเชื่อใจ ไว้วางใจ การภักดีต่อแบรนด์ เพื่อสร้างการบอกต่อ
ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวลงสื่อออนไลน์ commend การใช้งานของสินค้า และ บริการของเรา ลูกค้าใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามา จะอาศัยการศึกษาจากฐานลูกค้าเก่า เพราะเห็นได้ว่า ลูกค้าเหล่านั้น ได้สัมผัส และ เข้าใจแบรนด์มาก่อน นอกจากการการซื้อซ้ำแล้ว บริการหลังการขายก็สำคัญ ถือเป็นการเคลมว่า ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ หรือ ภักดีต่อแบรนด์มากน้อยเพียงใด ผ่านบริการ ส่วนลด โปรโมชั่น สิทธิประโยชน์ต่างๆ และ call center
โดยที่รูปฝั่งซ้าย คือ แผนในการบริหารจัดการ Back Stage ( Finance, HR และ Operation ) ในรูปครึ่งขวา คือ การบริหารจัดการ Front Stage ( Marketing, Sales และ Service )
Business Model Canvas คือ ออกแบบโมเดลทางธุรกิจออนไลน์ ผ่านองค์ประกอบ 9 อย่าง ดังต่อไปนี้
1. ลูกค้า ( Customer Segments - CS )
คือ กิจกรรมหลักที่คุณจะต้องทำ เพื่อส่งมอบคุณค่า ( Key Activities ) ของสินค้า และ บริการ
2. คุณค่า ( Value Propositions - VP ) จุดขายของสินค้า หรือ บริการ
การทำธุรกิจคือการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าเพราะฉะนั้นคุณต้องตอบตัวเองถึงการมีอยู่ของธุรกิจของคุณให้ได้
3. ช่องทาง ( Channels - CH ) การเลือกใช้สื่อ รูปแบบแพลตฟอร์ม และ วิธีการสื่อสารแบรนด์ไปถึงลูกค้า
ออกมาได้ 3 รูปแบบ Owned, Paid และ Earned
4. ความสัมพันธ์กับลูกค้า ( Customer Relationships - CR ) วิธีในการรักษาลูกค้าฐานลูกค้า
การรักษาฐานลูกค้า เพราะการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เปอร์เซ็นต์ยากกว่า การหาลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าเก่า เราต้องสร้างความเชื่อใจ ไว้วางใจ การภักดีต่อแบรนด์ เพื่อสร้างการบอกต่อ
5. กระแสรายได้ ( Revenue Streams - RS ) รายได้ของธุรกิจ
หากธุรกิจมีรายได้เยอะ โอกาสที่จะนำธุรกิจไปต่อได้มีสูง แต่ไม่ควรประมาท ควรจะนำรายได้ ที่ได้มา จัดสรรให้ตรงงาน ตรงประเด็นกที่ต้องการจะพัฒนา สินค้า หรือ บริการ ของแบรนด์ เพื่อทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงกว่าเดิม
6. ทรัพยากรหลัก ( Key Resources - KR ) สิ่งที่ต้องมีในการทำธุรกิจ
- Intellectual Resources ( ทรัพยากรทางปัญญา ) สิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์
- Financial Resources ( ทรัพยากรทางการเงิน ) ลงเงินทุน
- Physical Resources ( ทรัพยากรที่จับต้องได้ ) สินค้า, วัตถุดิบ
- Human Resources ( ทรัพยากรบุคคล ) กำลังพนักงานในบริษัท หรือ ฟรีแลนซ์
7. กิจกรรมหลัก ( Key Activities - KA ) กิจกรรมที่ต้องทำ เพื่อให้โมเดลธุรกิจอยู่ได้
กิจกรรมหลัก ที่ทางเราจะส่งมอบให้แก่ลูกค้า ผ่านทางสินค้า และ บริการ ของเรา
8. พันธมิตรหลัก ( Key Partners - KP ) เกี่ยวข้องด้านการช่วยเหลือ วัตถุดิบ และ การขาย
- Strategic alliances between non-competitors การร่วมมือ กับ บริษัทที่ไม่ใช่คู่แข่ง เช่น
- Coopetition การร่วมมือ กับ คู่แข่ง
- Joint Ventures to develop new businesses การร่วมมือ สำหรับการสร้างธุรกิจใหม่ ให้เกิดขึ้น
- Buyer-supplier relationships ความสัมพันธ์แบบผู้ซื้อ - ผู้ขาย
9. โครงสร้างต้นทุน ( Cost Structure -C$ ) ต้นทุนทั้งหมดของธุรกิจนี้
โครงสร้างต้นทุน สามารถวัดได้ว่า คุณได้ไปต่อหรือไม่ สำหรับธุรกิจนี้ หากเรามีต้นทุนสูง สามารถแข่งกันทำราคากับคู่แข่งได้ แต่ถ้าหากต้นทุนต่ำ หากเราดีจริง เจ๋งจริง อาจจะเป็นจุดแข็งในธุรกิจของเราได้
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ Business Model Canvas การสร้างโมเดลธุรกิจผ่านโมเดลออกแบบ ไม่ยาก ไม่ง่าย จนเกินไป สามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกรูปแบบในการนำเสนอธุรกิจ ที่สามารถใช้งานได้ดี และ สื่อสารได้ง่าย ระหว่างลูกค้า กับ เจ้าของธุรกิจอย่างเรา
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม