การคิด Keyword ในการที่จะใส่ในเว็บไซต์ของคุณ หรือ Google Ads นั้นมีความสำคัญอย่างมากเพราะลูกค้าจะได้ค้นหาคุณเจอ จัดกลุ่ม Keyword ใน Google Ads ส่วนของ Paid Search หลายๆคนอาจจะไม่มีประสบการณ์ในการคิด Keyword จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องวางแผนเพราะการวางแผนและเลือก Keyword ที่ดีจะช่วยทำให้เพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ปริมาณการคลิกและคุณภาพของลูกค้าได้และทำให้ Paid Search ของคุณดีขึ้น
การคิด Keyword
1.ขั้นตอนในการคิด Keyword แบบง่ายๆ คือ ให้คุณลองคิดว่าตัวคุณเองเป็นลูกค้า Customer Perspective คุณต้องการที่จะหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการ คุณจะค้นหาด้วยคำว่าอะไรเพื่อที่จะได้ใช้คำนั้นมาเป็น Keyword ในการค้นหาเพื่อทำให้เวลาที่มีการค้นหาคำนั้นๆก็จะมาเจอคุณด้วยเพราะนั้นหมายถึงคำนั้นต้องเกี่ยวข้องกับคุณ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำที่มีความหมายเกี่ยวกับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น Digital Marketing ซึ่งถือว่าเป็นคำหลัก คุณจะมีกี่คำก็ได้ที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ คุณสามารถที่จะตรวจดูได้ว่า Keyword ที่คุณใช้ได้ว่าคุณจะนำมาใช้มีการค้นหาเฉลี่ยเดือนละกี่ครั้ง คู่แข่งของคุณเยอะมากแค่ไหน มีราคาคลิกแต่ละครั้งกี่บาท Cost per click หรือ CPC
2.ใช้ Keyword ให้ตรงกับความต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหามาถึงขั้นตอนต่อมาหลังจากมีคำหลักแล้ว ถ้าคุณต้องการทำให้การค้นหาของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จะมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การใช้ Keyword ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการทำแบบนี้ คือ การทำ Keyword ยาว หรือ เรียกว่า Long-Tail Keywords โดยจะมีการนำคำ หรือ วลีที่มีความหมายอยู่แล้วคำสองคำ หรือ มากกว่านั้นมารวมกันเป็นประโยคเดียว การใช้ Long-Tail Keywords จะมีความ niche หรือ จะมีความเฉพาะตัวสูงกว่า Broad Keyword ทั่วไปจึงทำให้ยิ่งมีประสิทธิภาพในการค้นหามากยิ่งขึ้นเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะค้นหาคำนั้นแบบตรงๆโดยไม่มีวัตถุประสงค์ในการค้นหา เช่น ค้นหาคำว่า Digital Marketing เพียงอย่างเดียว แต่ในทางกลับกันพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่มักจะค้นหาด้วย Keyword + Objective ยกตัวอย่างเช่น วิธีทำ Digital Marketing, ทำ Digital Marketing ฯลฯ ถ้าคุณใช้ Keyword ตรงกับความต้องการมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการค้นหามากยิ่งขึ้นเพราะประโยคเหล่านี้เป็นประโยคที่ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะใช้ในการค้นหาและเป็นประโยคที่สามารถดึงดูดการเข้าถึงได้มากกว่าเพราะตรงกับความต้องการของลูกค้าและประโยคเหล่านี้ไม่ค่อยมีการแข่งขันเท่ากับ Keyword แบบกว้างๆและสามารถที่จะจัดอันดับในการค้นหาได้ง่ายขึ้น
3.ใช้ Keyword ที่มาจากปัญหา หรือ สิ่งที่สร้างความยุ่งยากของลูกค้าโดยสิ่งสุดท้ายที่ควรทำ คือ การใช้ Keyword ที่เกิดจากปัญหา หรือ สิ่งที่สร้างความยุ่งยากของลูกค้า โดยที่คุณใช้ Keyword ที่มาจาก Pain point ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับการทำโฆษณาออนไลน์ เช่น การทำโฆษณาอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ถ้าหากเรามีการใช้ Keyword คำว่า โฆษณาออนไลน์ กับ กลุ่มเป้าหมาย อยู่ในประโยคก็จะมาทำให้เวลาที่มีการค้นหามีโอกาสที่ลูกค้าจะเจอคุณเพราะคุณมี Keyword ที่เกี่ยวข้องกับความต้องการอยู่และหากข้อมูลของคุณสามารถตอบสนองความต้องการ หรือ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้ก็มีโอกาสที่จะมาเป็นลูกค้าของคุณ
สิ่งที่ช่วยสำรวจ Keyword
- ใช้ Google Search Engine ช่องที่คุณเอาไว้พิมพ์ค้นหาข้อมูลต่างๆ เวลาที่คุณพิมพ์ก็จะมีการ Suggest Keyword แบบ Long-Tail Keywords มาให้คุณ ซึ่งคุณสามารถนำ Keyword พวกนี้ไปใช้ได้เพราะเป็น Keyword ที่ติดอันดับในการค้นหา
- ใช้ Google Trends เพื่อที่จะดู Keyword ที่คุณกำลังทำนั้นมีการค้นหามากน้อยแค่ไหนและมี Keyword แบบไหนที่คล้ายกับคุณ Related queries ทำให้คุณสามรถเพิ่มในส่วนของ Keyword ได้
- Keyword Planner เป็นเครื่องมืออยู่ใน Google Ads คุณจำเป็นจะต้องมี Gmail ในการเข้าใช้งาน ซึ่ง Keyword Planner สามารถดูได้ทั้ง Volume ในการค้นหา ราคาคลิกของ Keyword และ Keyword เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ourgreenfish
อ่านบทความเพิ่มเติม
Severity: Core Warning
Message: PHP Startup: Unable to load dynamic library 'i360.so' (tried: /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so (libhs_runtime.so.5: cannot open shared object file: No such file or directory), /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so (/usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so: cannot open shared object file: No such file or directory))
Filename: Unknown
Line Number: 0
Backtrace: